แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยฉุดคร่าพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร แล้วข่มขืนกระทำชำเรา และหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงนั้นไว้ เป็นความผิด 3 กระทงตาม มาตรา 276,284,310 และศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยกระทงที่หนักที่สุดได้
ย่อยาว
ฟ้องว่า เมื่อ 20 ธ.ค. 2500 เวลากลางคืนจำเลยกับพวกร่วมกันฉุดคร่าพา น.ส.ประนอม สุขเกษมไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้ปืนยิงขู่เข็ญ 2 นัดระหว่างวันที่ 20 ถึง 25 เดือนเดียวกัน จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.ประนอมจนสำเร็จความใคร่หลายครั้งในภาวะที่ไม่สามารถจะขัดขืนได้ และจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังน.ส.ประนอมมิให้หลบหนี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 284, 310
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 284, 310 ให้ลงโทษตามมาตรา 276 อันเป็นบทหนักจำคุก 5 ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้ฉุดคร่า น.ส.ประนอมไปเพื่อการอนาจาร และได้ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.ประนอมจนสำเร็จความใคร่หลายครั้งและหน่วงเหนี่ยวกักขัง น.ส.ประนอมจริงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นวางมา แต่ให้ลงโทษฐานข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 อันเป็นกระทงที่หนักที่สุด จำคุก 3 ปี