คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินไว้จากจำเลยมิได้ฟ้องผู้จำนอง (จำเลย)เพื่อเอาทรัพย์ (ที่ดิน) จำนองหลุด แต่ได้ร้องเข้ามาในคดีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา(โจทก์)ได้ยึดที่ดินนั้นเพื่อเอาชำระหนี้เช่นนี้ผู้ร้องจะว่าเป็นหน้าที่ของผู้จำนองจะต้องนำสืบว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ ฟังไม่ได้เพราะไม่ใช่คดีระหว่างผู้รับจำนองกับผู้จำนอง
เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฏโจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาทเมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา289 ไม่ได้

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและนำยึดที่ดินของจำเลยเพื่อให้ขายทอดตลาดเอาชำระหนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินนั้นจำเลยจำนองผู้ร้องไว้ ขอให้ที่ดินหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้ร้อง

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง ให้ยกคำร้องของผู้ร้องในข้อที่ขอเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเรื่องนี้ผู้ร้องมิได้ฟ้องผู้จำนอง (คือจำเลย) เพื่อเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดหากแต่ได้ร้องเข้ามาในคดีที่เจ้าหนี้อื่นคือโจทก์ได้ยึดทรัพย์นั้นเพื่อเอาชำระหนี้ ฉะนั้นที่ผู้ร้องว่าเป็นหน้าที่ของผู้จำนองจะต้องนำสืบว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอันค้างชำระ จึงฟังไม่ได้เพราะไม่ใช่คดีระหว่างผู้รับจำนองกับผู้จำนอง เมื่อผู้ร้องต้องการเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิ เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและยึดทรัพย์สินนั้นไว้ ผู้ร้องก็ต้องแสดงสิทธิของตนให้ปรากฏ โจทก์โต้แย้งอยู่ว่าราคาทรัพย์สินไม่ท่วมจำนวนหนี้ของผู้ร้อง ซึ่งศาลรับฟังเป็นประเด็นข้อพิพาทอยู่แล้ว เมื่อผู้ร้องไม่นำสืบ ก็แสดงสิทธิที่จะเรียกเอาทรัพย์สินจำนองหลุดเป็นสิทธิตามมาตรา 289 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่ได้ ศาลก็ต้องยกคำขอของผู้ร้องในข้อนี้

Share