คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเข้าถางที่รกร้างว่างเปล่า ครอบครองมานั้น แม้จะมิได้ขออนุญาตให้ถูกต้องตามพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน ฉบับที่ 6 ก็ยังได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1367
ผู้ถือใบเหยียบย่ำ ซึ่งออกทับที่ ที่มีผู้ครอบครองอยู่ก่อนร้องขอใบเหยียบย่ำจะใช้สิทธิในใบเหยียบย่ำยันผู้ครอบครองอยู่ก่อนนั้นมิได้แม้ผู้ครอบครองจะเข้าครอบครองโดยมิได้ขออนุญาตให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน ฉบับที่ 6 ก็ดี

ย่อยาว

คดีนี้ คู่ความตั้งพิพาทที่ดินมือเปล่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์ยื่นเรื่องราวขอจับจองที่พิพาทจำเลยคัดค้านเพราะได้บุกเบิกครอบครองมาก่อนโจทก์ขอเหยียบย่ำ แต่เป็นเวลาภายหลังประกาศใช้พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2479 แต่ในที่สุดนายอำเภอสั่งออกใบเหยียบย่ำให้โจทก์ ปัญหามีว่าฝ่ายใดควรมีสิทธิในที่พิพาท

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การครอบครองของจำเลยผิดกฎหมาย ใช้ยันโจทก์ไม่ได้ พิพากษาขับไล่จำเลย

แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยเข้าถางทำที่พิพาทครอบครองมานั้นนับว่าจำเลยได้สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 อยู่ก่อนที่โจทก์ร้องขอใบเหยียบย่ำแล้ว และเพียงแต่การครอบครองโดยไม่ได้ขออนุญาตเท่านั้น ยังไม่เข้าขั้นเป็นความผิดศูนย์เสียสิทธิครอบครอง ไป ฉะนั้นแม้โจทก์จะได้รับใบเหยียบย่ำ ก็ไม่มีสิทธิดีกว่าจำเลย เพราะที่นี้ มิใช่ที่ว่างเปล่า โจทก์จะใช้สิทธิในใบเหยียบย่ำ ซึ่งออกทับที่ที่จำเลยได้เข้าครอบครองอยู่ ยันสิทธิของจำเลยไม่ได้ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1045/2485

จึงพิพากษายืน

Share