แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สินค้าที่โจทก์ขนส่งไปประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อตกลงในการขนส่งกับโจทก์ จำเลยที่ 1 จึงเป็นคู่สัญญากับโจทก์ การที่จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุมัติโควตามอบโควตาให้จำเลยที่ 1 ส่งสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปออกไปประเทศสหรัฐอเมริกาอีกต่อหนึ่ง เป็นการโอนสิทธิในการส่งออกให้จำเลยที่ 1 ไม่ใช่เป็นการตั้งให้จำเลยที่ 1 มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่ 4 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 797 วรรคหนึ่ง จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 4 ไม่ต้องรับผิดในค่าขนส่งต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสิบสี่ร่วมกันชำระเงิน ๑,๓๔๖,๐๖๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงิน ๑,๒๘๔,๕๑๘.๕๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๑๐ ให้การว่า จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๑๐ ไม่เคยตั้งจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ เป็นตัวแทนและไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ จำเลยที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๔ และโจทก์ จำเลยที่ ๕ เป็นสาขาของจำเลยที่ ๔ จึงไม่ต้องรับผิดในฐานะนิติบุคคลร่วมกับจำเลยที่ ๔ จำเลยที่ ๖ ถึงที่ ๑๐ เป็นกรรมการของจำเลยที่ ๔ จึงไม่ต้องรับผิดในฐานะส่วนตัว ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาคดี โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๔ จำเลยที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๔ ไม่ค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ ร่วมรับผิดชำระเงินจำนวน ๑,๒๕๘,๓๐๗ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๘ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๕ ถึงที่ ๑๐
จำเลยที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๔ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำเลยที่ ๔ ได้รับอนุมัติโควตาส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปออกไปนอกประเทศจากกองสิ่งทอ กรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ ๑ ให้โจทก์ส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปประเทศสหรัฐอเมริกาโดยใช้โควตาของจำเลยที่ ๔ จำนวน ๒ ครั้ง โจทก์ทดรองจ่ายค่าขนส่งไปรวม ๑,๒๕๘,๓๐๗ บาท โจทก์ทวงถามให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าขนส่งแล้ว แต่จำเลยที่ ๑ เพิกเฉย
มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๔ ในการส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ พยานโจทก์มีนายธนาวุฒิ ยิ่งบัณฑิตพงศ์ นายธัญญะ จิตต์อุไร นายสมพร เด่นวานิช และนายอุเทนโชติยานนท์ เบิกความตอบทนายจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๑๐ ถามค้านว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ติดต่อกับนายอุเทน พนักงานโจทก์ให้ขนส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปประเทศสหรัฐอเมริกา โจทก์รับสินค้าที่จะส่งจากโรงงานของจำเลยที่ ๑ และสินค้าดังกล่าวเป็นของจำเลยที่ ๑ อีกทั้งนายธัญญะเบิกความตอบทนายจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๑๐ ถามค้านรับว่าสินค้าที่โจทก์ขนส่งไปประเทศสหรัฐอเมริกาตามใบขนส่งสินค้าขาออกเอกสารหมาย จ. ๘ กับใบกำกับสินค้าเอกสารหมาย จ. ๑๑ เป็นสินค้ารายการเดียวกับที่ปรากฏในเอกสารหมาย ล. ๑ ล. ๒ เห็นว่า เอกสารหมาย ล. ๑ ล. ๒ เป็นหนังสือยินยอมการรับส่วนจัดสรรระหว่างเจ้าของส่วนจัดสรรกับเจ้าของสินค้า ซึ่งได้ระบุว่าเป็นการจัดสรรด้วยวิธีแลกเปลี่ยนโควตาโดยระบุให้จำเลยที่ ๑ เป็นผู้มีสิทธิในการรับชำระเงินและระบุเลขที่ใบกำกับสินค้าหรือ INVOICE ในเอกสารหมาย ล. ๑ แผ่นที่ ๑ , ๔ และเอกสารหมาย ล. ๒ แผ่นที่ ๑ , ๒ ว่าเป็นเลขที่ ๓๘๐๑๒๕/UEO , ๓๘๐๑๒๖/UEO ซึ่งตรงกับเลขที่ INVOICE ในใบขนสินค้าขาออกเอกสารหมาย จ. ๘ จ. ๑๓ เมื่อนำมาประกอบกับคำเบิกความพยานโจทก์ทั้งสี่ปากข้างต้น ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าสินค้าที่โจทก์ขนส่งไปประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ติดต่อตกลงในการขนส่งกับโจทก์ จำเลยที่ ๑ จึงเป็นคู่สัญญากับโจทก์ การที่จำเลยที่ ๔ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุมัติโควตามอบให้จำเลยที่ ๑ ส่งสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปออกไปประเทศสหรัฐอเมริกาอีกต่อหนึ่งเป็นการโอนสิทธิในการส่งออกให้จำเลยที่ ๑ ไม่ใช่เป็นการตั้งให้จำเลยที่ ๑ มีอำนาจทำการแทนจำเลยที่ ๔ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๗๙๗ วรรคหนึ่ง จำเลยที่ ๑ จึงไม่ใช่ตัวแทนของจำเลยที่ ๔ จำเลยที่ ๔ ไม่ต้องรับผิดในค่าขนส่งต่อโจทก์
พิพากษายืน.