แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตั๋วสัญญาใช้เงินระบุว่าผู้ออกตั๋วได้ออกตั๋วเมื่อวันที่17มิถุนายน2528สัญญาว่าจะจ่ายเงิน10,030,000บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ18.5ต่อปีในวันที่17มิถุนายน2529ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้นับแต่วันที่17มิถุนายน2528ซึ่งเป็นวันออกตั๋วสัญญาใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา911ประกอบมาตรา985
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดปากเกล็ดสแควร์ค้างชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 ฉบับอยู่แก่โจทก์จำนวน 14,478,575.10 บาทต่อมาห้างดังกล่าวถูกศาลแพ่งสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ ล.714/2533 โจทก์จึงทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันและจำนองที่ดินเป็นประกันการชำระหนี้แทนห้าง แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 14,478,575.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ18.5 ต่อปี ในต้นเงิน 6,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้ ถ้าได้เงินสุทธิไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยชำระหนี้จนกว่าจะครบถ้วน
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน6,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่17 มิถุนายน 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ถ้าจำเลยไม่ชำระให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้จนกว่าจะครบถ้วน
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามตั๋วสัญญาใช้เงินเอกสารหมาย จ.4ระบุว่าผู้ออกตั๋วได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน2528 สัญญาว่าจะจ่ายเงิน 10,030,000 บาท ในวันที่ 17 มิถุนายน 2529พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้นับแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2528 ซึ่งเป็นวันออกตั๋วสัญญาใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 911ประกอบมาตรา 985
พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะดอกเบี้ยให้จำเลยชำระอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2528 เป็นต้นไปแต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 8,478,575.10 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์