คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยล้อมรั้วที่ดินตาม น.ส.3 ของจำเลยรุกล้ำลำห้วยสาธารณะกั้นเอาบ่อน้ำสาธารณะมาเป็นของตน ทำให้ประชาชนเข้าไปใช้น้ำในบ่อไม่ได้ โดยมีเจตนาจะเอาบ่อน้ำนั้นไว้ใช้เป็นส่วนตัว มิได้มุ่งหมายหรือมีเจตนาโดยตรงที่จะทำให้บ่อน้ำนั้นเสียหายหรือไร้ประโยชน์ และบ่อน้ำคงมีสภาพเป็นบ่อน้ำอยู่ตามเดิม ไม่ได้ถูกทำให้ไร้ประโยชน์ไปอย่างใด ดังนี้ การล้อมรั้วกั้นเอาบ่อน้ำไว้จึงเป็นการห่างไกลเกินความประสงค์ของจำเลยในเรื่องทำให้บ่อน้ำนั้นเสียหายหรือไร้ประโยชน์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 360

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจล้อมรั้วยึดถือครอบครองที่ดินลำห้วยเมืองและบ่อน้ำอันเป็นทรัพย์ที่ใช้และมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา เป็นเหตุให้ที่ดินลำห้วยเมืองและบ่อดังกล่าวไร้ประโยชน์ ประชาชนใช้น้ำในบ่อไม่ได้ ขอให้ลงโทษและให้จำเลยออกจากที่ดินนั้นด้วย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 9, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2512 มาตรา 7 ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2512 มาตรา 7 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 1 ปี ปรับ 600 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ให้จำเลยรื้อรั้วออกจากแนวเขตลำห้วยเมืองอันเป็นแนวธรรมชาติบริเวณที่มีบ่อน้ำ

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 11 ปรับ 600 บาท ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน 50 วา ที่โจทก์ฟ้อง ไม่ได้อยู่ในเขตลำห้วยสาธารณะ คงเป็นที่ดินที่จำเลยครอบครองอยู่ และไม่ใช่ที่ดินสาธารณประโยชน์แต่บ่อน้ำที่โจทก์ฟ้องอยู่ในเขตลำห้วยสาธารณะ เป็นบ่อน้ำสาธารณะที่ประชาชนในหมู่บ้านใช้น้ำในบ่อร่วมกัน จำเลยล้อมรั้วที่ดินตามน.ส.3 ของจำเลยแต่ได้ล้อมรั้วรุกล้ำลำห้วยเพื่อกั้นเอาบ่อนน้ำสาธารณะมาเป็นของตน ทำให้ประชาชนเข้าไปใช้น้ำในบ่อไม่ได้ แล้ววินิจฉัยว่าการที่จำเลยล้อมรั้วรุกล้ำลำห้วยสาธารณะกั้นเอาบ่อน้ำดังกล่าวนั้นไว้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะเอาบ่อน้ำนั้นไว้ใช้เป็นส่วนตัว จำเลยมิได้มุ่งหมายหรือมีเจตนาโดยตรงที่จะทำให้บ่อน้ำนั้นเสียหายหรือไร้ประโยชน์ บ่อน้ำคงมีสภาพเป็นบ่อน้ำอยู่ตามเดิม ไม่ได้ถูกทำให้ไร้ประโยชน์ไปอย่างใด การล้อมรั้วกั้นเอาบ่อน้ำไว้เป็นการห่างไกลเกินความประสงค์ของจำเลยในเรื่องทำให้บ่อน้ำนั้นเสียหายหรือไร้ประโยชน์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360

พิพากษายืน

Share