แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สลากเครื่องหมายการค้าของทั้งสองฝ่ายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าปิดที่ฝากล่องใส่ตะไบนอนไปตามส่วนยาวของกล่อง ตอนส่วนบนสลากของโจทก์เป็นรูปตะไบ 2 อันไขว้ทับกันเป็นเส้นทะแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมตรงกลางระหว่างโคนตะไบมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ ยู.เอส.เอ. เป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ส่วนของจำเลยเป็นรูปตะไบ 2 อันวางอยู่ห่างกันหันปลายตะไบเข้าหากัน โคนตะไบถ่างออกจากกันตรงกลางระหว่างโคนตะไบเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวต่อลงไปทางส่วนกลางของสลากของโจทก์เป็นรูปผู้ชายกำลังยืนใช้ตะไบถูเหล็ก ส่วนของจำเลยเป็นรูปโรงงานมีควันไฟกำลังออกจากปล่องของโรงงานรูปทั้งสองบนสลากดังกล่าวนี้มีลักษณะเด่นเห็นได้ชัดเจนที่สุด ไม่มีทางที่จะทำให้เห็นได้เลยว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยจะมีลักษณะไปในทางเหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และไม่ชวนให้เห็นว่าเป็นลักษณะทำนองเดียวกันหรือเกือบเหมือนกัน ดังนี้ เครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่เหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน การที่จำเลยไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และการที่จำเลยสั่งตะไบที่มีเครื่องหมายการค้าตามหมาย จ.11 มาขาย จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ใช้กับสินค้าตะไบและบุ้งไว้แล้วในประเทศไทยรวม 3 คำขอ จำเลยได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าต่อกองเครื่องหมายการค้า กระทรวงเศรษฐการตามคำขอเลขที่ 50858 เป็นรูปใบสลากใช้กับสินค้าจำพวก 12 เช่นเดียวกับโจทก์ เป็นการเลียนแบบอันเหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน ขอให้ศาลพิพากษาสั่งให้นายทะเบียนระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย ตามคำขอเลขที่ 50858ตามเอกสารหมาย 10 ท้ายฟ้อง ห้ามจำเลยสั่งเข้ามาในประเทศไทย และห้ามจำหน่ายสินค้าตะไบและบุ้งอันมีเครื่องหมายการค้าตามคำขอดังกล่าวข้างต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า เครื่องหมายการค้าที่จำเลยได้ยื่นขอจดทะเบียนจนได้สิทธิไปแล้วนั้น เป็นรูปรอยเครื่องหมายที่จำเลยคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นเองสารสำคัญของเครื่องหมายอยู่ที่ส่วนซึ่งเป็นรูปตะไบอันเป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยเอง ตามคำขอเลขที่ 48770 หาได้เลียนแบบจากโจทก์หรือเจตนาทำขึ้นให้มีส่วนคล้ายคลึงกับของโจทก์จนอาจทำให้สาธารณชนหลงผิดดังฟ้องไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ปัญหามีว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยตามสลากหมาย จ.11เหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามสลากหมาย จ.12จนถึงนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนหรือไม่ พิเคราะห์รูปเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่ามีความแตกต่างกันมาก คือ สลากเครื่องหมายการค้าของทั้งสองฝ่ายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าปิดที่ฝากล่องใส่ตะไบนอนไปตามส่วนยาวของกล่อง ตอนส่วนบนสลากของโจทก์เป็นรูปตะไบ 2 อันไขว้ทับกันเป็นเส้นทะแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมตรงกลางระหว่างโคนตะไบมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ ยู.เอส.เอ. เป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ส่วนของจำเลยเป็นรูปตะไบ 2 อัน วางอยู่ห่างกัน หันปลายตะไบเข้าหากัน โคนตะไบถ่างออกจากกัน ตรงกลางระหว่างโคนตะไบเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ต่อลงไปทางส่วนกลางของสลากของโจทก์เป็นรูปผู้ชายกำลังยืนใช้ตะไบถูเหล็ก ส่วนของจำเลยเป็นรูปโรงงานมีควันไฟกำลังออกจากปล่องของโรงงาน รูปทั้งสองบนสลากดังกล่าวนี้มีลักษณะเด่นเห็นได้ชัดเจนที่สุด ไม่มีทางที่จะทำให้เห็นได้เลยว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยจะมีลักษณะไปในทางเหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และไม่ชวนให้เห็นว่าเป็นลักษณะทำนองเดียวกันหรือเกือบเหมือนกัน แม้จะเป็นรูปตะไบอย่างเดียวกันก็ตาม ทั้งในทะเบียนของโจทก์ก็ระบุไว้ว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ถือเป็นสิทธิที่จะใช้รูปตะไบแต่ผู้เดียว เว้นแต่รูปตะไบสองอันไขว้กัน ศาลฎีกาเห็นว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่เหมือนหรือคล้ายกันกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน การที่จำเลยไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และการที่จำเลยสั่งตะไบที่มีเครื่องหมายการค้าตามหมาย จ.11 มาขาย จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์
พิพากษายืน