แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
นอกจากหัวข้อด้านบนจะระบุว่าพินัยกรรมแล้ว ยังมีข้อความต่อไปว่า “ข้าพเจ้า อ. ขอแสดงเจตนาเพื่อทำพินัยกรรมขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ที่ดินตาม ข้าพเจ้าขอยกให้แก่ แต่เพียงผู้เดียว” และ “ข้อกำหนดพินัยกรรมนี้เป็นไปตามเจตนาของข้าพเจ้าทุกประการ” บุคคลทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่าอ. มีเจตนาจะยกทรัพย์สมบัติให้แก่ผู้มีชื่อในพินัยกรรมนั้น เมื่อ อ. ตายหาใช่มีเจตนายกให้ขณะยังมีชีวิตอยู่ไม่ ทั้งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายคำว่า “พินัยกรรม” ไว้ว่า”เอกสารแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินหรือในการต่าง ๆอันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตาย” ถือได้ว่าอ. ได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนไว้แล้ว
บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646มิใช่แบบของพินัยกรรมที่บังคับให้ต้องระบุข้อความกำหนดการเผื่อตายโดยต้องมีคำว่า “เผื่อตาย” ระบุไว้โดยชัดแจ้ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1925, 2177,2222 และ 2226 โดยนางอ่อน ดวนใหญ่ มารดาสามีโจทก์ยกให้โจทก์ตั้งแต่ปี 2504 และโจทก์ครอบครองที่ดินทั้ง 4 แปลง ตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบันขอให้พิพากษาว่า พินัยกรรมตามฟ้องไม่เป็นพินัยกรรมตามกฎหมายให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนางอ่อนผู้ตายไปจดทะเบียนโอนที่ดินทั้ง 4 แปลง ดังกล่าวเป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินทั้ง 4 แปลง ดังกล่าว
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่ดินทั้ง 4 แปลง ตามคำฟ้องเป็นของนางอ่อน ดวนใหญ่ ผู้ตาย และผู้ตายได้ทำพินัยกรรมให้ที่ดินดังกล่าวแก่จำเลยต่อหน้าญาติหลายคน ขอให้ยกฟ้อง และบังคับโจทก์ให้มอบโฉนดที่ดินดังกล่าวทั้ง 4 แปลง แก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ในวันนัดสืบพยาน โจทก์และจำเลยขอสละประเด็นทั้งหมดที่ศาลชั้นต้นได้ชี้สองสถานไว้ และตกลงท้ากันโดยให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าพินัยกรรมฉบับที่นางอ่อน ดวนใหญ่ ผู้ตายทำไว้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์2526 ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้และมีผลใช้บังคับได้หรือไม่ถ้าศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าพินัยกรรมฉบับดังกล่าวถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้และมีผลใช้บังคับได้ ฝ่ายโจทก์ยอมแพ้ ถ้าพินัยกรรมฉบับดังกล่าวไม่ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้และใช้บังคับไม่ได้ จำเลยยอมแพ้
ศาลชั้นต้นเห็นว่า หนังสือพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์2526 ที่นางอ่อน ดวนใหญ่ ผู้ตายทำขึ้นเป็นพินัยกรรมถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้ และมีผลใช้บังคับได้สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1647 และมาตรา 1656 โจทก์จึงต้องแพ้คดีตามคำท้า พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า พินัยกรรมที่นางอ่อน ดวนใหญ่ ทำไว้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2526 ไม่มีข้อความกำหนดการเผื่อตายโดยไม่มีคำว่า “เผื่อตาย” ระบุไว้ จึงเป็นพินัยกรรมที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมายนั้น เห็นว่า พินัยกรรมเอกสารหมาย ร.4ในคดีที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนางอ่อนผู้ตายตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1839/2538 ของศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นพินัยกรรมตามคำท้าของคู่ความคดีนี้ นอกจากหัวข้อด้านบนจะระบุว่าพินัยกรรมแล้วยังมีข้อความต่อไปว่า “ข้าพเจ้านางอ่อน ดวนใหญ่ ขอแสดงเจตนาเพื่อทำพินัยกรรมขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ ที่ดินตาม ข้าพเจ้าขอยกให้แก่แต่เพียงผู้เดียว” และในย่อหน้าที่ 3ตอนท้ายระบุว่า “ข้อกำหนดพินัยกรรมนี้เป็นไปตามเจตนาของข้าพเจ้าทุกประการ “ถ้อยคำดังกล่าวบุคคลทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่านางอ่อนมีเจตนาจะยกทรัพย์สมบัติให้แก่ผู้มีชื่อในพินัยกรรมนั้นเมื่อนางอ่อนตาย หาใช่มีเจตนายกให้ขณะยังมีชีวิตอยู่ไม่ ทั้งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. 2525 ให้ความหมายคำว่า “พินัยกรรม” ไว้ว่า “เอกสารแสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินหรือในการต่าง ๆ อันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตาย” ดังนี้ จึงถือได้ว่านางอ่อนได้กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนไว้แล้ว บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 มิใช่แบบของพินัยกรรมที่บังคับให้ต้องระบุข้อความกำหนดการเผื่อตายโดยต้องมีคำว่า “เผื่อตาย”ระบุไว้โดยชัดแจ้งดังที่โจทก์ฎีกาที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าเอกสารพินัยกรรมที่นางอ่อนทำไว้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2526 ถูกต้องตามแบบที่มาตรา 1647 และ1656 กำหนดไว้ และมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน