คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่1เป็นลูกจ้างของจำเลยที่2 บ. ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่2มีหน้าที่ขับรถยนต์และดูแลรถคันเกิดเหตุยินยอมให้จำเลยที่1ขับรถยนต์ของจำเลยที่2ไปทำงานโดยลำพังแต่ผู้เดียวแล้วจำเลยที่1ได้ขับรถยนต์ไปชนโจทก์โดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์บาดเจ็บได้รับอันตรายถึงสาหัสจำเลยที่1ขับรถยนต์ไปทำงานให้จำเลยที่2ซึ่งเป็นนายจ้างแม้เหตุจะเกิดก่อนเวลาถึงเวลาทำงานตามปกติของร้านจำเลยที่2ก็ถือได้ว่าจำเลยที่1ได้ขับรถยนต์ไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่2จำเลยที่2จึงต้องร่วมกับจำเลยที่1รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ที่ 1 เป็น ลูกจ้าง ของ จำเลย ที่ 2 ได้ ขับรถยนต์ ของ จำเลย ที่ 2 เพื่อ กิจการ และ ตาม คำสั่ง ของ จำเลย ที่ 2ไป ตาม ถนน สิงหราช ด้วย ความประมาท คึกคะนอง และ ความ เร็ว สูง พุ่ง เข้า ชน โจทก์ ซึ่ง กำลัง เดิน อยู่ บน ทางเท้า บริเวณ ที่เกิดเหตุเป็นเหตุ ให้ โจทก์ ได้รับ อันตรายสาหัส ต้อง พัก รักษา ตัว อยู่ ที่โรงพยาบาล เป็น เวลา 1 เดือน คิด เป็น ค่ารักษาพยาบาล 60,000 บาทหลังจาก นั้น โจทก์ ต้อง ไป ตรวจ รักษา บาดแผล และ ทำ กาย ภาพ บำบัด ทุก2 สัปดาห์ ตาม คำสั่ง ของ แพทย์ เสีย ค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล ค่า ยาใน ส่วน นี้ เป็น เงิน 20,000 บาท โจทก์ ได้รับ ความ เจ็บปวด และ ทน ทุกข์ทรมาน จาก บาดแผล มี แผลเป็น ทั่ว ร่างกาย ใบหน้า ต้อง เสียโฉม ติดตัวตลอด ไป คิด เป็น ค่าเสียหาย จำนวน 100,000 บาท และ โจทก์ ไม่สามารถประกอบ กรณียกิจ ต่าง ๆ ตาม ปกติ ได้ ต้อง นอน พัก รักษา ตัว เป็น เวลาไม่ น้อยกว่า 1 ปี ระหว่าง นี้ โจทก์ ได้ จ้าง บุคคลอื่น มา ทำงาน บ้าน แทนและ ช่วยเหลือ ดูแล โจทก์ เสีย ค่าใช้จ่าย เดือน ละ 2,000 บาท เป็น เงินจำนวน 24,000 บาท แต่ โจทก์ ขอ คิด เพียง 20,000 บาท รวมเป็นค่าเสียหาย ทั้งสิ้น 200,000 บาท จำเลย ที่ 2 ใน ฐานะ เจ้าของ รถยนต์และ นายจ้าง ของ จำเลย ที่ 1 ต้อง ร่วมรับผิด ชำระหนี้ จำนวน ดังกล่าวแก่ โจทก์ ด้วย ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระ เงิน จำนวน200,000 บาท พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปี จาก ต้นเงินดังกล่าว นับแต่ วันฟ้อง ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ที่ 1 ขาดนัด ยื่นคำให้การ
จำเลย ที่ 2 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 1 ไม่ได้ เป็น ผู้กระทำ ละเมิดต่อ โจทก์ ตาม ฟ้อง จำเลย ที่ 1 ไม่ใช่ ลูกจ้าง ของ จำเลย ที่ 2จำเลย ที่ 1 นำ รถยนต์ ของ จำเลย ที่ 2 ไป ขับ โดย พลการ จำเลย ที่ 2ไม่ได้ อนุญาต หรือ ใช้ จ้างวาน เพื่อ กิจการ งาน ของ จำเลย ที่ 2 ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระ เงิน จำนวน145,626 บาท พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปี จาก ต้นเงินดังกล่าว นับ จาก วัน ถัด จาก วันฟ้อง ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย ทั้ง สองร่วมกัน ชดใช้ ค่าจ้าง บุคคลอื่น มา ช่วย ทำงาน บ้าน เป็น เงิน 20,000 บาทแก่ โจทก์ นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ที่ 2 ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ที่ ได้ นั่งพิจารณา ใน ศาลชั้นต้นรับรอง ว่า มีเหตุ สมควร ที่ จะ ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง ได้
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า จำเลย ที่ 1 เป็น ลูกจ้าง ของ จำเลย ที่ 2นาย บุญศรี ยินยอม ให้ จำเลย ที่ 1 ขับ รถยนต์ ของ จำเลย ที่ 2ไป ทำงาน โดย ลำพัง แต่ ผู้เดียว แล้ว จำเลย ที่ 1 ได้ ขับ รถยนต์ไป ชน โจทก์ โดยประมาท เป็นเหตุ ให้ โจทก์ บาดเจ็บ ได้รับ อันตรายถึง สาหัส จำเลย ที่ 1 ขับ รถยนต์ ไป ทำงาน ให้ จำเลย ที่ 2 ซึ่ง เป็น นายจ้างแม้ เหตุ จะ เกิด ก่อน เวลา ถึง เวลาทำงาน ตาม ปกติ ของ ร้าน จำเลย ที่ 2ก็ ถือได้ว่า จำเลย ที่ 1 ได้ ขับ รถยนต์ ไป ใน ทางการที่จ้าง ของ จำเลย ที่ 2จำเลย ที่ 2 จึง ต้อง ร่วม กับ จำเลย ที่ 1 รับผิด ชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้ แก่ โจทก์ ฎีกา ของ จำเลย ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share