แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหาว่า การที่จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองนำเข้าซึ่งเฮโรอีน และนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4เป็นการกระทำความผิดเพียงกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกันเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 วรรคสอง เฮโรอีนของกลางแต่ละก้อนถูกผสมด้วยพีโนบาร์บิตาลและไดอาซีแพม จึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยมีและนำเข้า ซึ่งเฮโรอีนและวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ดังกล่าวเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว ศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษให้แก่จำเลยหนึ่งในสามโดยอาศัย เหตุที่คำให้การรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาล โดยศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกเอาปัญหา ที่จำเลยเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาเพราะไม่รู้หนังสือไทยและกฎหมายไทย หรือตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัสมาพิจารณาวินิจฉัยแต่การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวมาลดโทษให้จำเลยเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นหรือเห็นว่าไม่ใช่เหตุ ที่จะลดโทษให้ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ดังนี้ การที่ศาลไม่ได้ลดโทษให้จำเลยโดยเหตุดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยคลาดเคลื่อนต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พฤติการณ์แห่งคดีที่จำเลยซึ่งเป็นชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าพนักงานของรัฐเมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดเพราะจำเลยไม่รู้หนังสือและกฎหมายไทย ไม่มีญาติพี่น้องที่จะติดต่อขอความช่วยเหลือได้ และจำเลยเป็นผู้ตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัส ประกอบกับจำเลยได้รับความช่วยเหลือทางด้านคดีเมื่อได้ถูกฟ้องคดีต่อศาลแล้ว โดยศาลขอแรง ทนายความ ให้แก่ต่างให้ กรณีจึงมีเหตุอันควรปรานีแก่จำเลย ศาลฎีกาเห็นควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 16, 90, 116 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบเฮโรอีนของกลาง และริบฟีโนบาร์บิตาลและไดอาซีแพม ของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคสองและมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง, 90 ลงโทษฐานนำเฮโรอีนเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย ให้ประหารชีวิตลงโทษฐานนำวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 เข้ามาในราชอาณาจักร จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 52(1) ฐานนำเข้าซึ่งเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายจำคุกตลอดชีวิตฐานนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 จำคุก 2 ปี เมื่อลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในกระทงแรกแล้วจึงไม่นำโทษในกระทงหลังมารวมอีก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) คงลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตริบเฮโรอีนของกลางและริบฟีโนบาร์บิตาล และไดอาซีแพมของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคหนึ่ง, 67และมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง, 90 การมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองและนำเข้าซึ่งเฮโรอีน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานนำเข้าซึ่งเฮโรอีน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกตลอดชีวิต ลงโทษฐานนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ประกอบด้วยมาตรา 53 ฐานนำเข้าซึ่งเฮโรอีน คงจำคุก 33 ปี 4 เดือนฐานนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 คงจำคุก 2 ปี รวมจำคุก 35 ปี4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษจำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยมีเฮโรอีนชนิดผงสีนำ้ตาลอ่อนห่อด้วยพลาสติกสีดำทำเป็นก้อนกลม ๆจำนวนหลายก้อนบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 678.050 กรัม ไว้ในครอบครองและนำเฮโรอีนดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร จึงถูกจับกุมพร้อมยึดเฮโรอีนดังกล่าวทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ได้มีการส่งของกลางไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานพบว่า นอกจากมีเฮโรอีน คำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ 17.417 กรัม แล้วยังตรวจพบวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4ชนิดฟีโนบาร์บิตาล คำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 30.662 กรัม และชนิดไดอาซีแพม คำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ 27.255 กรัม ผสมอยู่ด้วย จึงแจ้งข้อหาจำเลยเพิ่มเติมว่า นำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ด้วย
ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยเสียก่อนเป็นประการแรกว่า การที่จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง นำเข้าซึ่งเฮโรอีน และนำเข้าซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 เป็นการกระทำความผิดเพียงกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง เห็นว่าเฮโรอีนของกลางทั้งหมดแต่ละก้อนนั้นถูกผสมด้วยฟีโนบาร์บิตาล และไดอาซีแพมจึงเป็นวัตถุอันเดียว การที่จำเลยมีและนำเข้าซึ่งเฮโรอีนและวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ดังกล่าว เป็นการกระทำคราวเดียวกันจึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
ปัญหาต่อไปจะได้วินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่าการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบกับ มาตรา 53 นั้นเป็นการวินิจฉัยคดีโดยคลาดเคลื่อนต่อหลักกฎหมายตามมาตรา 78 เพราะมิได้วินิจฉัยถึงเหตุอื่น ๆ ที่ได้รับการลดโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 78 ด้วยนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 บัญญัติว่า”เมื่อปรากฏว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ไม่ว่าจะได้มีการเพิ่มหรือการลดโทษตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นแล้วหรือไม่ ถ้าศาลเห็นสมควรจะลดโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นก็ได้ เหตุบรรเทาโทษนั้น ได้แก่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญา ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีคุณความดีมาแต่ก่อนรู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น ลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานหรือให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาหรือเหตุอื่นที่ศาลเห็นว่ามีลักษณะทำนองเดียวกัน” บทบัญญัติกฎหมายมาตรานี้เป็นบทบัญญัติซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลที่จะลดโทษให้แก่จำเลยในการที่มีเหตุอันควรปรานีโดยไม่จำกัดว่า เหตุอันควรปรานีนั้นจะมีแต่เฉพาะที่บัญญัติไว้ในมาตรา 78 เท่านั้น เหตุอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันศาลก็อาจนำมาพิจารณาวินิจฉัยลดโทษให้ได้ ทั้งนี้แล้วแต่ดุลพินิจของศาลจะเห็นสมควรว่าเหตุผลใดควรที่จะลดโทษให้แก่จำเลยได้ แต่โทษที่จะลดให้นั้นต้องไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิด ในคดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษให้แก่จำเลยหนึ่งในสามโดยอาศัยเหตุที่คำให้การรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาลโดยมิได้หยิบยกเอาปัญหาที่จำเลยเป็นผู้โฉดเขลาเบาปัญญาเพราะไม่รู้หนังสือไทยและกฎหมายไทย หรือตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัสมาพิจารณาวินิจฉัยลดโทษให้ การที่ศาลไม่ได้ยกปัญหาดังกล่าวมาลดโทษให้จำเลยก็เพราะศาลเห็นว่าไม่จำเป็นหรือเห็นว่าไม่ใช่เหตุที่จะลดโทษให้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลการที่ศาลไม่ได้ลดโทษให้จำเลยโดยเหตุดังกล่าว จึงไม่ใช่เรื่องที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยคลาดเคลื่อนต่อหลักกฎหมายตามมาตรา 78 แต่อย่างใดไม่
แต่ที่จำเลยฎีกาโดยประสงค์จะขอให้ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งนั้นก็ถือได้ว่าจำเลยประสงค์จะให้ศาลฎีกาให้ความปรานีลดโทษให้กึ่งหนึ่งคดีจึงมีปัญหาว่ามีเหตุอันควรปรานีที่ศาลฎีกาจะลดโทษให้แก่จำเลยกึ่งหนึ่งหรือไม่ เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดี ที่จำเลยเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ไม่สามารถสื่อสารกับเจ้าพนักงานของรัฐเมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดเพราะไม่รู้หนังสือและกฎหมายไทยไม่มีญาติพี่น้องที่จะติดต่อขอความช่วยเหลือได้จำเลยเป็นผู้ตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัส และจำเลยได้รับความช่วยเหลือทางด้านคดีเมื่อได้ถูกฟ้องคดีต่อศาลแล้วโดยศาลขอแรงทนายความให้แก้ต่างให้ กรณีจึงมีเหตุอันควรปรานีแก่จำเลย โดยศาลฎีกาเห็นควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 ประกอบกับมาตรา 53
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคหนึ่ง, 67 และพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 16 วรรคหนึ่ง, 90 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานนำเข้าซึ่งเฮโรอีน อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกตลอดชีวิต ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบกับมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์