คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างมีหน้าที่เดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตลอดจนการใช้เครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ลูกจ้างเดินเครื่องกำเนิดไฟเพื่อทดลองเครื่อง อันเป็นการกระทำเพื่อจะติดเครื่องไฟฟ้าใช้ตามปกติ ได้เกิดไฟชอร์ทเพราะสายไฟชำรุด ไฟได้ลุกลามไหม้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย นายจ้างจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายซึ่งลูกจ้างเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้าง จำเลยที่ ๓ มีหน้าที่ควบคุมปิดเปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๒ เป็นคนขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๓ บางครั้งมีหน้าที่ควบคุมและปิดเปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแทนจำเลยที่ ๑ ด้วย จำเลยที่ ๓ สั่งให้จำเลยที่ ๑,๒ เปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ด้วยความประมาทของจำเลยที่ ๑,๒ ไม่ดูความเรียบร้อยของสายไฟก่อนเปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เมื่อเดินเครื่องเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าจึงทำให้เกิดไฟชอร์ท เนื่องมาจากสายไฟชำรุดและเสื่อมคุณภาพ โดยยางหุ้มสายไฟขาด เหลือแต่ลวดทองแดง ประกายไฟที่เกิดจากการชอร์ทได้ไหม้ปอของจำเลยที่ ๓ แล้วลุกลามไปไหม้บ้านพักของโจทก์ ทรัพย์สินของโจทก์ถูกไฟไหม้คิดเป็นเงิน ๒๐,๓๔๐ บาท จำเลยที่ ๓ จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑,๒ ในฐานะนายจ้าง
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ จำเลยให้การว่าไม่ได้สั่งให้จำเลยที่ ๑ เดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจึงเป็นการกระทำนอกทางการที่จ้าง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ ๒ ไม่ได้เกี่ยวข้องในการเดินไฟ พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ ๒ และให้จำเลยที่ ๑,๓ ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน ๗,๗๑๕ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑,๓ ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน+๖๕๕ บาท นอกจากที่แก้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๓ มีหน้าที่เกี่ยวกับการปิดเปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตลอดจนการใช้เครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไฟ และได้ความว่าการที่จำเลยที่ ๑ เดินเครื่องกำเนิดไฟอันทำให้เกิดไฟไหม้นั้น ได้ทำไปเพื่อทดลองเครื่อง เพื่อจะได้รู้ว่าใช้การได้สะดวกดีหรือไม่ หรือจะมีการขัดข้องควรแก้ไขเครื่องประการใด นั้น ย่อมอยู่ในเรื่องการปฏิบัติตามหน้าที่ในทางการที่จ้างนั่นเอง ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยต้องกันว่าจำเลยที่ ๑ ได้ทำการไปตามหน้าที่ทางการที่จ้าง ซึ่งจำเลยที่ ๓ ผู้เป็นนายจ้างจะต้องรับผิดชอบในความเสียหาย ซึ่งจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ก่อแก่โจทก์นั้นชอบแล้ว
ส่วนในเรื่องค่าเสียหาย ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์เสียหายเพียง ๓,๕๕๕ บาท
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ใช้เงินแก่โจทก์ ๓,๕๕๕ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share