คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้โดยอ้างว่าได้จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทและสิ่งปลูกสร้างโดยขาดเจตนา ย่อมขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา โดยให้จำเลยนำเงินค่าเช่าห้องแถวพิพาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะเสร็จคดีมาวางศาลได้ เพราะถ้าศาลพิพากษาให้เพิกถอน โจทก์ย่อมมีสิทธิในเงินค่าเช่าห้องแถวนับแต่วันจดทะเบียนสัญญาให้ มิใช่ตั้งแต่วันศาลพิพากษาให้เพิกถอนดังฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนนิติกรรมและจดทะเบียนยกให้ซึ่งเป็นที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างซึ่งปลูกอยู่ในที่ดิน โอนคืนให้โจทก์และให้โจทก์มีสิทธิเก็บค่าเช่าห้องแถวซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินดังกล่าวและห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องเก็บค่าเช่า

จำเลยให้การว่า โจทก์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างในที่ดินให้แก่จำเลยโดยสมัครใจ ทั้งเวลาก่อนหรือขณะให้โจทก์มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดี และการให้นั้นโจทก์ได้โอนให้จำเลยโดยมีค่าตอบแทน

ระหว่างพิจารณาคดี โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของผู้ขอในระหว่างการพิจารณา โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินค่าเช่าห้องแถวซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินพิพาทแปลงหนึ่ง เป็นเงินเดือนละ 1,200 บาท มาวางต่อศาลนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะเสร็จคดี

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินค่าเช่าห้องแถวซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินพิพาทเป็นเงินเดือนละ 1,200 บาท มาวางศาลทุก ๆ เดือนนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2514 เป็นต้นไป จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และเมื่อฝ่ายใดชนะคดีก็ให้ฝ่ายนั้นรับเงินที่วางศาลนี้ไปได้

จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น เป็นให้ยกคำร้องของโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่ดินและห้องแถวโฉนดเลขที่ 1835 มีรายได้ค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาททั้งคำขอท้ายฟ้องก็ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์มีสิทธิเก็บค่าเช่า และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องเก็บค่าเช่าด้วย เมื่อค่าเช่าเป็นดอกผลนิตินัยของที่ดินและห้องแถว หากสัญญายกให้ที่โจทก์ฟ้องจะต้องถูกเพิกถอนคืนสู่ฐานะเดิมแล้ว ก็รวมถึงการคืนดอกผลคือค่าเช่าย้อนขึ้นไปด้วย ทรัพย์พิพาทกันในคดีนี้จึงมีค่าเช่ารวมอยู่ด้วย และเป็นประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัย

ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาให้จำเลยนำเงินค่าเช่าห้องแถวมาวางศาลเป็นการสมควรหรือไม่ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้โดยอ้างว่าได้จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทและสิ่งปลูกสร้างโดยขาดเจตนา ซึ่งถ้าศาลพิพากษาให้เพิกถอน โจทก์ย่อมมีสิทธิในเงินค่าเช่าห้องแถวนับตั้งแต่วันจดทะเบียนสัญญาให้ มิใช่ตั้งแต่วันศาลพิพากษาชี้ขาดให้เพิกถอน เพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณจะได้ถือว่าโจทก์มีสิทธิในค่าเช่านับตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษาชี้ขาดเพิกถอนการให้ ดังนี้ คำร้องที่โจทก์ยื่นจึงมีเหตุอันสมควรได้รับการคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share