แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดียักยอกทรัพย์ต้องอายัติ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์ที่อายัติจากเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้จับกุมในวันที่ 11 มกราคม 2488 แล้ว จำเลยอ้างเอกสารซึ่งพนักงานสอบสวนทำไว้ว่ายึดไม้ในวันที่ 10 มกราคม 2488 และอายัติไว้กับนายปั่น ดังนี้ ยังไม่พอฟังได้เด็ดขาดว่า ในวันที่ 11 มกราคม 2488 ซึ่งโจทก์หานั้น เจ้าพนักงานจะไม่ได้มอบหมายไม้ให้จำเลยรักษา โจทก์ย่อมมีสิทธิจะนำสืบให้สมฟัองได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๘๘ จำเลยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รักษาไม้สักตามบัญชีท้ายฟ้องอันเป็นของจำเลย ซึ่งต้องอาญัติตามกฎหมายไว้จากนายจิตต์กรมการอำเภอบางเลย ในระหว่างวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๘๘ ถึงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๘๘ จำเลยได้ยักยอกไม้สักจำนวนนี้ไปเสีย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๑๖ จำเลยให้การปฏิเสธ ชั้นพิจารณาจำเลยได้อ้างเอกสารซึ่งเจ้าพนักงานสอบสวนและเจ้าพนักงานตำรวจทำไว้ว่า เจ้าพนักงานยึดไม้รายนี้ไว้จากจำเลยเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๔๘๘ แล้วอายัตของกลางให้นายปั่นรักษาไว้ จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยว่าตามเอกสาร จำเลยไม่ใช่ผู้รับรักษาไม้รายนี้ โจทก์แถลงว่าไม้รายนี้เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอบางเลนเป็นผู้จับกุม แล้วส่งบัญชีทรัพย์และของกลางให้แก่พนักงานสอบสวนตำรวจ ส่วนไม้ของกลางพนักงานป่าไม้เก็บรักษาไว้ แล้วพนักงานป่าไม้มอบไม้ที่ถูกอายัตให้ไว้กับจำเลยเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๘๘ ความจริง นายปั่นหาได้รับอายัตไม้ของกลางไว้ตามเอกสารที่ตำรวจทำไว้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เอกสารนั้นทำไม่ตรงกับความจริง โจทก์มีสิทธินำสืบได้ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในปัญหาข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยจะได้รับมอบหมายไม้สักจากกรมการอำเภอบางเลนในวันที่โจทก์หาหรือไม่ ซึ่งโจทก์จะนำสืบให้เห็นตามฟ้องนั้น เห็นควรจะได้พิจารณาตามที่โจทก์ขอสืบ เพราะเพียงเอกสารที่จำเลยอ้างว่า นายปั่นรับรักษาในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๔๘๘ นั้นยังไม่พอฟังได้อย่างเด็ดขาดว่า ในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๔๘๘ ซึ่งโจทก์หานั้น เจ้าพนักงานจะไม่ได้มอบหมายให้จำเลยรักษา
พิพากษายืน