แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และจำเลยใช้อาวุธปืนนั้น จำเลยปฏิเสธตลอดข้อหา ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนยิงขู่ ไม่มีเจตนาจะฆ่า เช่นนี้ เกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบว่าปืนนั้นไม่มีทะเบียน และจำเลยไม่มีใบอนุญาต มิฉะนั้น ก็ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2504)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก ไม่ได้จดทะเบียนไว้ในครอบครองไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่จำเลยใช้ปืนดังกล่าว ยิงนายปั่นโดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูก ขอให้ลงโทษฐานฆ่า และมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาต
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 รวมกระทงลงโทษจำคุก 10 ปี จำเลยมีคุณความดีมาก่อน ไม่มีสาเหตุกับนายปั่นทำไปโดยผิดหลงชั่วขณะ ทั้งจำเลยอายุ 56 ปีแล้ว ลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 คงจำคุก 5 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยยิงขู่ ไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย และโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าปืนนั้นไม่มีทะเบียน และไม่ได้นำสืบว่าจำเลยไม่มีใบอนุญาตให้ใช้ปืนนั้น พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยยิงขู่ ไม่มีเจตนาจะฆ่า
เกี่ยวกับความผิดฐานมีปืนโดยไม่รับอนุญาตซึ่งโจทก์ฎีกาขึ้นมานั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยไม่ได้รับในข้อหาเรื่องมีปืน เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าปืนนั้นไม่มีทะเบียนและไม่ได้นำสืบว่าจำเลยไม่มีใบอนุญาตให้ใช้ปืนนั้น จึงลงโทษจำเลยฐานนี้ไม่ได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์