คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดและอายัด ผู้ร้องมีภาระที่จะต้องจัดสรรขายและทำนิติกรรมให้แก่ผู้อื่น หากไม่เพิกถอนการยึดผู้ร้องและบุคคลภายนอกย่อมได้รับความเสียหาย และสมุดเงินฝากธนาคารที่ผู้ร้องเสนอเพื่อนำมาวางเป็นประกันและจะนำมาทำสัญญาค้ำประกันต่อศาลก็มีจำนวนเงินมากกว่าราคาที่ดินที่พิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้เฉพาะส่วนที่จำเลยมีสิทธิได้รับ และหลักประกันสมุดเงินฝากธนาคารดังกล่าวโจทก์สามารถยึดชำระหนี้ได้เมื่อผู้ร้องแพ้คดี นอกจากนี้ห้าง บ. ได้นำเงินที่จำเลยมีสิทธิเรียกร้องส่งศาลเป็นประจำทุกเดือนตามที่ผู้ร้องกับโจทก์ได้ตกลงกัน โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหายและแม้จะมีการเพิกถอนการยึดและอายัดแล้วศาลก็ยังคงพิจารณาไต่สวนเรื่องการร้องขอปล่อยทรัพย์ต่อไป หาทำให้เหตุพิพาทในเรื่องร้องขัดทรัพย์ที่ผู้ร้องร้องหมดไปไม่ ศาลจึงชอบที่จะสั่งให้เพิกถอนการยึดทรัพย์พิพาท ทั้งนี้ โดยอาศัยเหตุเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และเพื่อบรรเทาความเสียหายให้ผู้ร้องซึ่งเป็นการสั่งโดยอำนาจของศาลที่จะสั่งได้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 2,000,000 บาทเศษ จำเลยทั้งสองไม่ชำระ โจทก์นำยึดที่ดินมีโฉนดที่ตำบลบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ 39 แปลง และที่ดินโฉนดเลขที่ 4536 ตำบลบางกระสอบ จังหวัดสมุทรปราการ อีก 1 แปลงรวม 40 แปลง และขอให้อายัดที่ดินมีโฉนด ตำบลบางจาก กรุงเทพมหานคร28 แปลง และที่ดินโฉนดเลขที่ 1294 ตำบลพระโขนงฝั่งใต้ กรุงเทพมหานครอีก 1 แปลง รวม 29 แปลง ซึ่งเป็นทรัพย์ของบิดามารดาจำเลยที่ 2เฉพาะส่วนที่จำเลยที่ 2 มีสิทธิได้รับมรดกและอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 2 ในเงินส่วนแบ่งจากการที่บิดามารดาจำเลยที่ 2ร่วมจัดสรรที่ดินกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านและที่ดินเปรมฤทัย เป็นรายเดือนทุกเดือน
ผู้ร้องทั้งสามยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดและเพิกถอนการอายัดที่ดินและสิทธิเรียกร้องโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์ของผู้ร้องทั้งสาม
โจทก์ให้การว่า ที่ดินที่ยึดและอายัดเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดาจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 เป็นทายาทมีสิทธิได้รับมรดกและโจทก์อายัดสิทธิเรียกร้องเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 2 เท่านั้นขอให้ยกคำร้อง
ระหว่างสืบพยาน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินที่โจทก์ยึดและอายัด บางส่วนมีภาระผูกพันจัดสรรแบ่งขายให้บุคคลภายนอกตั้งแต่บิดามารดาผู้ร้องยังมีชีวิตอยู่ ส่วนที่เหลือผู้ร้องจำเป็นต้องนำออกใช้หาประโยชน์ทำนิติกรรมทางอื่นอันจำเป็นและส่วนใหญ่ได้ทำนิติกรรมไว้กับบุคคลอื่น ผู้ร้องขอวางหลักทรัพย์คือสมุดเงินฝากประจำแทนที่ดินที่อายัดและยึดดังกล่าว โจทก์ยังมีเงินจากการบังคับคดีในคดีแพ่งอีก กับเงินอายัดจากห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านและที่ดินเปรมฤทัย เฉพาะส่วนของจำเลยที่ 2 ขอวางหลักทรัพย์ดังกล่าวและให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการบังคับคดีหรือเพิกถอนการยึดและอายัดที่ดิน 69 แปลง โจทก์คัดค้านการวางหลักทรัพย์ว่าไม่พอชำระหนี้ตามคำพิพากษา และจำนวนเงินต่ำกว่าราคาประเมินของกรมที่ดินและต่ำกว่าราคาที่ผู้ร้องขายที่ดินให้แก่ผู้อื่น ราคาที่ดินจะสูงขึ้น เมื่อโจทก์ชนะคดี โจทก์อาจได้รับชำระหนี้ได้ครบถ้วนมากกว่าหากยอมให้วางหลักประกันแทนจะมีผลเท่ากับโจทก์ยอมให้ถอนการยึดและอายัด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องวางหลักประกันสมุดเงินฝากธนาคารไม่น้อยกว่า 1,620,000 บาท โดยมีหนังสือรับรองจากธนาคารแทนที่พิพาท ให้ผู้ร้องทำสัญญาประกันต่อศาลแล้วแจ้งอายัดเงินไปยังธนาคาร เมื่อได้ปฏิบัติดังกล่าวแล้วจึงให้เพิกถอนการยึดที่ดินพิพาททั้งหมด และแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์โดยไม่มีการขายรวมสั่งในคำพิพากษา
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่า การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องทั้งสามวางหลักประกันสมุดเงินฝากธนาคารไม่น้อยกว่า1,620,000 บาทแทน แล้วมีคำสั่งให้ถอนการยึดและอายัดที่พิพาทไม่ชอบนั้น ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดและอายัดที่พิพาทรวม 69 โฉนด และประเมินราคาที่ดินที่จำเลยที่ 2 มีสิทธิรับมรดกร่วมกับผู้อื่น จำนวน 1,586,000 บาทโดยที่ดินที่ถูกยึดตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการรวม 39 แปลง บิดามารดาผู้ร้องร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านและที่ดินเปรมฤทัย จัดสรรขายแก่ผู้อื่น และที่ดินโฉนดเลขที่ 4536ตำบลบางกระสอบ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ กับที่ดินที่ถูกอายัดที่ตำบลบางจาก และตำบลพระโขนงฝั่งใต้ อำเภอพระโขนงกรุงเทพมหานคร รวม 29 แปลง ส่วนใหญ่ทำนิติกรรมไว้กับผู้อื่นแล้วเห็นว่าที่ดินที่ถูกยึดและอายัดผู้ร้องทั้งสามมีภาระที่จะต้องจัดสรรขายและทำนิติกรรมให้แก่ผู้อื่นต่อไป หากไม่เพิกถอนการยึดผู้ร้องทั้งสามและบุคคลภายนอกย่อมได้รับความเสียหาย เมื่อพิจารณาหลักประกันสมุดเงินฝากธนาคารที่ผู้ร้องทั้งสาม เสนอ เพื่อนำมาวางเป็นประกันมีจำนวน 1,620,000 บาท ซึ่งมากกว่าราคาที่ดินพิพาทที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้เฉพาะส่วนของที่ดินที่ถูกยึดและอายัดที่จำเลยที่ 2 มีสิทธิได้รับ และหลักประกันสมุดเงินฝากธนาคารที่ผู้ร้องจะนำมาทำสัญญาค้ำประกันต่อศาล โจทก์สามารถยึดชำระหนี้ได้เมื่อผู้ร้องทั้งสามแพ้คดี นอกจากนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดบ้านและที่ดินเปรมฤทัย ได้นำเงินที่จำเลยที่ 2 มีสิทธิเรียกร้องส่งศาลเป็นประจำทุกเดือนตามที่ผู้ร้องทั้งสามกับโจทก์ได้ตกลงกันโจทก์จึงมิได้รับความเสียหาย และแม้จะมีการเพิกถอนการยึดหรืออายัดแล้ว ศาลก็ยังคงพิจารณาไต่สวนเรื่องการร้องขอปล่อยทรัพย์ต่อไปหาทำให้เหตุพิพาทในเรื่องร้องขัดทรัพย์ที่ผู้ร้องร้องนั้นหมดไปตามที่โจทก์ฎีกาไม่ การที่ศาลล่างทั้งสองสั่งให้เพิกถอนการยึดทรัพย์ก็โดยอาศัยเหตุเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และเพื่อบรรเทาความเสียหายให้ผู้ร้องทั้งสามซึ่งเป็นการสั่งไปโดยอาศัยอำนาจของศาลที่จะสั่งได้
พิพากษายืน.

Share