คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบอกล้างโมฆียกรรมนั้นมิต้องทำตามแบบพิธีอย่างใดๆเพียงแสดงเจตนาบอกล้างไปยังอีกฝ่ายหนึ่งก็พอแล้ว
สามีกล่าวแก่เจ้าหนี้ของภรรยาว่าไม่รับรู้ในหนี้ที่ภรรยาไปก่อขึ้นโดยสามีไม่ทราบ เพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่าสามีได้แสดงเจตนาบอกล้างโมฆียกรรมแล้ว

ย่อยาว

คดีนี้ผู้ร้องขัดทรัพย์ร้องว่าโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดเรือนกับที่ดินอันเป็นสินบริคณห์ ระหว่างผู้ร้องกับจำเลยจึงขอให้ถอนการยึด

โจทก์ให้การแก้ว่าผู้ร้องรู้เห็นยินยอมให้จำเลยเอาทรัพย์ที่พิพาทไปจำนองโจทก์ ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขัดทรัพย์ และว่าผู้ร้องไม่เคยบอกล้างนิติกรรมรายนี้

ศาลชั้นต้นฟังว่าผู้ร้องรู้เห็นในการที่จำเลยกู้เงินและทำสัญญาจำนองเท่ากับเป็นการให้ความยินยอมแล้ว สั่งยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าไม่ได้รู้เห็นยินยอม ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์เท่ากับบอกล้างนิติกรรมสัญญาจำนองแล้ว พิพากษากลับให้ถอนการยึดทรัพย์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องได้รู้เห็นยินยอมให้จำเลยทำสัญญาจำนอง ส่วนการบอกล้างนิติกรรมนั้นมิต้องมีแบบพิธีอย่างใด เพียงได้แสดงเจตนาไปยังอีกฝ่ายหนึ่งบอกล้างก็พอแล้วคดีได้ความว่าผู้ร้องได้พูดกับโจทก์ว่าไม่รับรู้หนี้ที่จำเลยได้ทำไว้กับโจทก์ จึงฟังได้ว่าผู้ร้องได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share