แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นักโทษที่ได้รับแต่งตั้งให้มีตำแหน่งยามในสามัญไม่ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามความในมาตรา 169
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นนักโทษได้รับหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานยามในสามัญ มีตำแน่งหน้าที่ควบคุมบุคคลที่ต้องคุมขังพลเรือนและห้องขังพิเศษในเรือนจำมณฑลทหารบกที่ ๔ มีความประมาทเป็นเหตุให้นักโทษหลบหนีไปได้รวม ๖ คน ขอให้ลงโทษ
ศาลมณฑลทหารบกที่ ๔ พิจารณาเห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นนักโทษ ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการที่นักโทษได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเรือนจำเช่นได้รับตั้งให้เป็นยามในสามัญตรวจเช่นนี้ เป็นเพียงประโยชน์ที่ทางราชการได้ให้แก่นักโทษผู้ประพฤติดีเท่านั้น มิได้มุ่งหมายถึงแก่แต่ตั้งให้เป็นเป็นเจ้าพนักงานของเรือนจำไม่จำเลยไม่มีผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยได้รับหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานยามในสามัญ แต่ตามพระราชบัญญัติและข้อบังคับในเรื่องนี้ ไม่มีแห่งใดที่ระบุถึงเจ้าพนักงานยามในสามัญ เพียงแต่บัญญัติว่าเป็นตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเท่านั้น และถึงแม้ความในข้อบังคับทหารจะระบุถึงผู้คุมพิเศษว่ามีหน้าที่และความรับผิดชอบเช่นนี้เดียวกับผู้คุมประจำก็ตาม แต่พระราชบัญญัติอนุญาตให้แต่งตั้งผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเท่านั้น ฉะนั้นผู้คุม พิเศษก็เพียงอำนาจหน้าที่เสมือนผู้คุมประจำ แต่หาใช่เจ้าพนักงานไม่ พิพากษายืน