คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9320/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่จำเลยหยิบยกมาเป็นเหตุในคำร้องให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา 293 วรรคหนึ่ง โจทก์คือบริษัท ท. จำเลยคือบริษัท อ.ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย แม้โจทก์คดีนี้จะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท อ.และจำเลยจะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ท.ก็ตาม จะถือว่าคู่ความในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกันกับคู่ความในคดีดังกล่าวหาได้ไม่ เพราะเป็นบุคคลต่างรายกัน ชอบที่ศาลจะยกคำร้องของจำเลยโดยเหตุดังกล่าวเสีย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน๕๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของจำนวนเงิน ๒๕๐,๐๐๐บาท นับแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๓๕ และของจำนวนเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๕ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ต่อมาวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๐ จำเลยยื่นคำร้องว่า บริษัทที.เอส.บี.เอ็นเตอร์ไพร์เซ็ส จำกัด โดยจำเลยในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ได้ฟ้องบริษัทโอฬารเทรเวล จำกัด โดยโจทก์เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยต่อศาลชั้นต้นเดียวกันให้ชำระหนี้ค่าจ้างและค่าวัสดุจำนวน ๔,๓๙๕,๐๒๔ บาท พร้อมดอกเบี้ย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้บริษัทโอฬารเทรเวล จำกัด ชดใช้เงินจำนวน๑,๒๗๐,๑๗๓ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๘ ธันวาคม๒๕๓๔ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่บริษัท ที.เอส.บี.เอ็นเตอร์ไพร์เซ็ส จำกัดบริษัทโอฬารเทรเวล จำกัด อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวและขอทุเลาการบังคับไว้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยจึงขอให้งดการบังคับคดีนี้เพราะสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาและขอให้ศาลอุทธรณ์ทุเลาการบังคับ และกรณีไม่มีเหตุที่จะงดการบังคับคดี ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การขอให้งดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ วรรคหนึ่ง นั้น ลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่จำต้องอุทธรณ์คำพิพากษาและขอทุเลาการบังคับไว้ แต่ตามบทบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีเรื่องอื่นอีกคดีหนึ่งในศาลเดียวกันนั้นซึ่งศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาด และถ้าหากคดีดังกล่าวลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นฝ่ายชนะ จะไม่ต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้ เพราะสามารถจะหักกลบลบหนี้กันได้ ปรากฏว่า คดีหมายเลขแดงที่ ๑๗๗๕๗/๒๕๔๐ ของศาลชั้นต้นเดียวกันที่จำเลยหยิบยกมาเป็นเหตุในคำร้องฉบับลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๐ ให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๓ วรรคหนึ่ง โจทก์คือบริษัท ที.เอส.บี.เอ็นเตอร์ไพร์เซ็ส จำกัด จำเลยคือบริษัทโอฬาร เทรเวล จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ฉะนั้น แม้โจทก์คดีนี้จะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทโอฬารเทรเวลจำกัด และจำเลยจะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ที.เอส.บี.เอ็นเตอร์ไพร์เซ็สจำกัด ก็ตาม ก็จะถือว่าคู่ความในคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกันกับคู่ความในคดีหมายเลขแดงที่ ๑๗๗๕๗/๒๕๔๐ ดังกล่าวหาได้ไม่ เพราะเป็นบุคคลต่างรายกัน กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตั้งแต่เบื้องต้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา๒๙๓ วรรคหนึ่ง ชอบที่ศาลจะยกคำร้องของจำเลยโดยเหตุดังกล่าวเสียแต่แรกแล้ว
พิพากษายืน

Share