คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาประกันไว้ต่อเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองเมื่อจำเลยผิดสัญญาประกัน เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองผู้มีอำนาจและหน้าที่ ๆ จะทำสัญญานี้ได้ตาม ก.ม.ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
อ้างฎีกาที่ 964/2487

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ทำสัญญาประกันตัวนายดอเลาะอาหลีซึ่งต้องหาฐานหลบหนีเข้าเมืองไปจากโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง โจทก์จึงสั่งปรับจำเลยเป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๒๑ เม.ย.๙๕ จำเลยได้นำเบี้ยปรับมาชำระต่อโจทก์แล้ว ๕๐๐ บาท ส่วนที่เหลือขอผลัดชำระไปเป็นรายเดือน ๆ ละ ๕๐๐ บาท จนกว่าจะครบ ครั้นวันที่ ๒๙ พ.ค.๙๕ จำเลยนำตัวนายดอเลาะมาส่งโจทก์จึงลดค่าปรับให้ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีก ๒,๐๐๐ บาท จำเลยไม่นำมาชำระ จึงฟ้องขอให้บังคับ
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าปรับเพราะได้นำตัวนายดอเลาะส่งแก่โจทก์แล้ว การที่จำเลยผิดสัญญานั้น โจทก์ได้ผ่อนผันให้จำเลยเลื่อนการนำตัวนายดอเลาะไปไม่มีกำหนด จึงไม่ถือว่าจำเลยผิดสัญญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าปรับที่ยังค้าง ๒,๐๐๐ บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาโดยข้อ ก.ม.และข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อที่จำเลยว่าจำเลยได้ส่งตัวนายดอเลาะให้แก่เจ้าหน้าที่ในวันนัดส่งตัวแล้ว จำเลยไม่ต้องรับผิดในเรื่องค่าปรับนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาไม่ได้ ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๒๔๘
ข้อที่จำเลยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเห็นว่าเรื่องนี้จำเลยทำสัญญาประกันไว้ต่อเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ผู้ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่จะทำสัญญานี้ได้ตาม ก.ม.ย่อมมีหน้าที่ ๆ จะบังคับตามสัญญานั้นได้ นัยอันเดียวกับคดีในคำพิพากษาฎีกาที่ ๙๖๔/๒๔๘๗ ระหว่างพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบองโจทก์ นายพาม ทรันตริน จำเลย ฎีกาของจำเลยหาสาระอันใดมิได้
จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น

Share