คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1414/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการที่จะพิเคราะห์ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าคนตายหรือไม่จะต้องพิจารณาถึงสาเหตุการตระเตรียมก่อนลงมือกระทำร้ายตลาดจนการกระทำของจำเลยและลักษณะบาดแผลรวมประกอบกัน
ได้ความว่าจำเลยกับผู้ตายมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนแล้วเกิดเป็นปากเสียงทะเลาะกันอีกพอเกิดทะเลาะกันแล้วจำเลยหยิบเอาเหล็กสว่านแต่จะใช้เป็นไขควงก็ได้ยาว 10 ซม. ด้ามเป็นเหล็กขนาดเท่า ๆ กัน ส่วนใหญ่ที่สุดของสว่านก็คือตอนที่ใกล้กับส่วนปลายที่แหลมและกว้าง 0.6 ซม.ซึ่งเป็นเครื่องประหารที่ทำให้ร่างรายนายบุบสลายถึงสาหัสได้ หยิบแล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ แสดงว่าเป็นการตระเรียมจะทำร้ายร่างกายด้วยของกลางแล้วจำเลยได้ใช้ไขควงหรือสว่านนี้แทงอกทางซ้ายของผู้ตายซึ่งเป็นที่สำคัญ แผลที่แทงปรากฏว่าลึกถึง 8 ซม. เห็นได้ว่าจำเลยได้แทงเข้าไปอย่างแรงจนเกือบมิดด้ามของเหล็กไขควง ถือได้แล้วว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่อาจแลเห็นผลได้ เข้าลักษณะเจตนาฆ่า.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙ และสั่งริบของกลางเสียด้วย
นางเสงี่ยม มูลสมบุญ ภรรยา ผู้ตายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
จำเลยให้การว่าได้แทงผู้ตายโดยมิได้เจตนาขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๑ จำคุก ๑๐ ปี ลดตาม ม.๕๙ กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๕ ปี ริบของกลาง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๒๔๙ จำคุก ๑๕ ปี ลดตาม ม.๕๙ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑๐ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและฟังคำแถลงการณ์และประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว เห็นว่าคดีมีเหตุหลายประการที่แสดงว่าจำเลยได้เจตนาฆ่าผู้ตายกล่าวคือ
๑.จำเลยและผู้ตายมีเหตุโกรธเคืองกันเรื่องใช้หม้อไฟฟ้า
๒.ปรากฏตามคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนว่าเมื่อเกิดเหตุทะเลาะกันที่ปากตรอกแล้วจำเลยได้หยิบเอาเหล็กไขควงของกลางออกจากกระเป๋าเครื่องมือรถจักรยานของจำเลยมาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ ซึ่งแสดงว่าเป็นการตระเตรียมจะทำร้ายด้วยของกลาง แต่จำเลยอ้างว่าเมื่อหยิบเอามาใส่กระเป๋าแล้วคิดว่าถ้าจะเอาของกลางตีคงไม่เจ็บ จึงเดินย้อนกลับเข้าไปในตรอกเพื่อจะหาไม้
๓.ของกลางนี้ที่จริงเป็นสว่านแต่จะใช้เป็นไขควงก็ได้ เฉพาะตัวสว่านยาว ๑๐ ซม. ด้ามเป็นเหล็กขนาดเท่า ๆ กัน ส่วนใหญ่ที่สุดของสว่านก็คือตอนที่ใกล้กับส่วนปลายที่แหลมและกว้าง ๐.๖ ซม. แม้ตามสภาพจะมิใช่ศาตราวุธก็ดี แต่เมื่อใช้ทำร้ายกันแล้วเป็นเครื่องประหารที่ทำให้ร่ายกายถึงบุบสลายถึงสาหัสได้ ย่อมถือว่าเป็นศาตราวุธได้เหมือนกัน
๔.จำลยเลือกแทงอกทางซ้ายของผู้ตายซึ่งเป็นที่สำคัญแผลที่แทงปรากฏว่าลึก ๘ ซม. เห็นได้ว่าจำเลยได้แทงเข้าไปอย่างแรงจนเกือบมิดด้ามของเหล็กไขควง
ส่วนคำรับสารภาพของจำเลยเมื่อไปสถานีตำรวจ ในชั้นแรกจำเลยก็มิได้บอกว่าจำเลยแทงผู้ตาย คือเมื่อ ร.ต.อ.ชาญ ชมะโชติ ซึ่งเป็นผู้สอบสวนเรื่องนี้ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลตำรวจนายอีลูนถูกแทงตาย และสอบถามจำเลย ๆ จึงยอมรับได้ว่าแทงจริง ในชั้นศาลจำเลยก็มิได้สารภาพตลอดข้อหา
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์ชี้ขาดและวางบทกำหนดโทษชอบด้วยรูปคดีแล้ว และเป็นความกรุณาแก้จำเลยมากแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน.

Share