แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฝิ่นเถื่อนที่มีวัดถุอื่นเจือปนอยู่ด้วย แต่วัดถุนั้นผสมเพื่อให้เป็นเนื้อยาฝิ่นมีน้ำหนักซื้อขายได้อย่างฝิ่นแล้วต้องปรับอย่างเนื้อฝิ่น พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.3 ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันแล้วฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า เจ้าพนักงานจับฝิ่นเถื่อนได้จากหลวงสมาจารจีนกิจและนางสมาจารจีนกิจ นายเวกจำเลย ๔๐๐ ตำลึงอันมีผิดตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.๒๔๖๔ ม.๓๖ (ข) (ง) ๒ แต่ฝิ่นนั้นมีเชื้อน้ำตาลกับเอกสแตรกท์ของพรรณไม้ทั้ง ๒ อย่างปนอยู่ด้วยมีปัญหาว่าการปรับจำเลยจะต้องแยกเอาวัดถุที่เจือปนออกเสียก่อนแล้วปรับเท่าจำนวนฝิ่นแท้หรือไม่ต้องแยก
ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ปรับจำเลย ๓ เท่าราคาฝิ่นที่จับได้ทั้ง ๔๐๐ ตำลึง (ไม่แยกเอาวัดถุที่เจือปนออก) เป็นเงิน ๑๘๐๐๐ บาท จำคุกหลวงสมาจารฯนายเวก ๖ เดือน นางสมาจาร ๓ เดือน แต่ศาลอุทธรณ์ให้รอการลงอาญานางสมาจารฯไว้ และเสียสินบนนำจับ ๑๒๐๐ บาท
จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ม.๓ ส่วนปัญหากฎหมายในการที่จะปรับจำเลยนั้น เห็นว่าแม้ฝิ่นของกลางจะมีวัดถุอื่นผสมเปนอยู่ด้วยก็ดี แต่ปรากฎว่าวัดถุนั้นได้ผสมเพื่อให้เป็นเนื้อยาฝิ่นอันมีน้ำหนักแลซื้อขายได้อย่างฝิ่น ซึ่งต้องด้วยลักษณความประสงค์แห่ง พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.๒๔๖๔ ม.๓ แล้ว จึงให้ปรับจำเลยตามศาลล่าง