คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยื่นคำร้องเท็จขอประกันผู้ทำผิด ถึงแม้จะไม่มีเจตนาทุจริตก็มีผิด วิธีพิจารณาอาญา ข้อทุจริตหรือไม่ทุจริตนั้นไม่ใช่ข้อสำคัญในความผิดฐานแจ้งความเท็จปัญหากฎหมายเทียบฎีกาที่ 571/2471

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยยื่นคำร้องขอประกัน ย.ค.ต่ออำเภอ ในคำร้องและหนังสือประกันกล่าวว่าจำเลยมีที่ดินแปลงหนึ่งกว้าง ๘ วายาว ๒๒ วา ราคา ๑๐๐๐ บาทไม่ได้จำนองไว้ แก่ใคร แต่ความจริงที่ดินนั้นจำเลยจำนองไว้แก่ผู้มีชื่อก่อนแล้ว และขนาดยาวของที่ก็มีเพียง ๑๓ วาดังนี้
ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้องโจทก์โดยกล่าววาปลัดอำเภอก็ทราบว่า ทีดินของจำเลยได้จำนองไว้ และจำเลยสืบสมว่าที่มีราคาสูงกว่า ๒๐๐๐ บาท ไม่เรียกว่าจำเลยแจ้งความเท็จดดยทุจริต และไม่เป็นเหตุอาจเกิดการเสียหายได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ม.๑๑๘ นั้น เพียงแต่จำเลยมีเจตนาเอาความเท็จมากล่าวและอาจจะเสียหายได้แล้ว ก็มีผิด การที่เจ้าพนักงานจะทราบความเท็จหรือไม่นั้นไม่เป็นข้อสำคัญ จำเลยสาบาลตัวกล่าวความเท็จเช่นนี้ ย่อมเป็นเหตุนำมาซึ่งความเสียหายต่อทางราชการ จึงตัดสินกลับให้ปรับจำเลย ๑๕๐ บาทตาม ม.๑๑๘ จำเลยเคยต้องโทษฐานลักเล่นไพ่พนันมาครั้งหนึ่งแล้ว ให้เพิ่มโทษตาม ม.๗๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็นเงิน ๒๐๐ บาท

Share