คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9278/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอาศัยที่วัดเป็นสถานที่เพื่อให้คนมาฝากรถ จึงเป็นเรื่องชัดแจ้งว่าจำเลยทำธุรกิจรับฝากทรัพย์ ประกอบกับฝ่ายจำเลยรับค่าบริการจากฝ่ายโจทก์ที่นำรถมาฝาก แล้วฝ่ายจำเลยมอบบัตรให้มีข้อความว่า “ธ. ไฟบริการ รับฝากรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ขอบคุณที่ใช้บริการ (กรุณาอย่าทำบัตรหาย)” โดยมีหมายเลขกำกับ อันแสดงว่าฝ่ายโจทก์จะรับรถคืนได้ต่อเมื่อคืนบัตรให้แก่ฝ่ายจำเลยดังนี้ มีผลเท่ากับว่า ฝ่ายโจทก์ได้ส่งมอบทรัพย์สินไว้ในอารักขาของฝ่ายจำเลยแล้วการที่ไม่ได้มอบลูกกุญแจให้ไว้ด้วย หาใช่สาระสำคัญไม่ การปฏิบัติระหว่างฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย เป็นการฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 657

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน อุบลราชธานี ฝ – 9606 โดยโจทก์เช่าซื้อจากห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยยนต์ในราคา 64,000 บาท ซึ่งโจทก์ต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าซื้อในความสูญหายจำเลยเป็นผู้มีอาชีพรับฝากทรัพย์ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์โดยเรียกค่าตอบแทน ประมาณต้นเดือนมกราคม 2538 โจทก์นำรถโจทก์คันดังกล่าวฝากแก่จำเลย โดยชำระค่าตอบแทนให้จำเลยเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลย ไม่ระมัดระวังดูแลรักษารถของโจทก์ อย่างวิญญูชนจะพึงสงวนรักษาทรัพย์สินของตน และสมควรต้องใช้ฝีมือพิเศษในการระมัดระวังทรัพย์ที่รับฝากเนื่องจากเป็นอาชีพของตน เป็นเหตุให้รถของโจทก์ที่เช่าซื้อสูญหายไปโจทก์ต้องจ้างพาหนะอื่นวันละ 40 บาท นับแต่รถหายจนกว่าจะเก็บเงินเช่าซื้อรถคันใหม่ได้เป็นเวลา 150 วัน เป็นเงิน 6,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน70,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ใช่ผู้รับฝากทรัพย์ จำเลยเพียงแต่จัดที่จอดรถเท่านั้นค่าเสียหายไม่น่าจะเกิน 5,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 7 มกราคม2538 จนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง เนื่องจากทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกิน 200,000 บาท คงมีปัญหาวินิจฉัยเฉพาะในข้อกฎหมาย ตามที่จำเลยฎีกาขึ้นมาว่า การที่เด็กชายณัฐวุฒิ สุดตลอด นำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดเองแล้วเอากุญแจรถไปด้วย โดยไม่ได้มอบกุญแจรถไว้แก่ผู้ดูแลที่จอดรถ จะใช่สัญญาฝากทรัพย์หรือไม่ ซึ่งจำเลยฎีกาโต้แย้งว่า พฤติการณ์เช่นนี้ไม่มีการส่งมอบการครอบครองรถแก่ผู้ดูแลสถานที่ จึงไม่ใช่การฝากทรัพย์ ปัญหานี้ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าจำเลยรับว่าอาศัยที่วัดเป็นสถานที่เพื่อให้คนมาฝากรถจึงเป็นเรื่องชัดแจ้งว่าจำเลยทำธุรกิจรับฝากทรัพย์ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่รับฟังได้เป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ว่า ฝ่ายจำเลยรับค่าบริการจากฝ่ายโจทก์ แล้วมอบบัตรให้มีข้อความว่า “ธนูไฟบริการ รับฝากรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ขอบคุณที่ใช้บริการ (กรุณาอย่าทำบัตรหาย)” โดยมีหมายเลขกำกับ อันแสดงว่าฝ่ายโจทก์จะรับรถคืนได้ต่อเมื่อคืนบัตรให้แก่ฝ่ายจำเลย ดังนี้ มีผลเท่ากับว่า ฝ่ายโจทก์ได้ส่งมอบทรัพย์สินไว้ในอารักขาของฝ่ายจำเลยแล้วการที่ไม่ได้มอบลูกกุญแจให้ไว้ด้วย หาใช่สาระสำคัญไม่ การปฏิบัติระหว่างฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย เป็นการฝากทรัพย์ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 657 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาชอบแล้ว แต่ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 7 มกราคม 2538 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการเกินคำขอ เห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษายืน แต่ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง

Share