แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเป็นทหาร จำเลยมีอายุกว่าสิบเจ็ดปีมีอายุน้อยกว่าคนอื่น ๆ ในหมู่นั้นก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอยืมปืนจำเลยไปเที่ยว แต่จำเลยไม่ให้ผู้ตายกับจำเลยเถียงกัน มีคนบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย ผู้ตายก็กลับไป แต่แล้วกลับย้อนตามจำเลยมาอีกพร้อมกับพูดว่า พวกมึงแน่สักแค่ไหน กูรู้ไต๋อยู่ แล้วผู้ตายวิ่งเข้ามาใกล้จำเลย จำเลยยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด และวิ่งหนีผู้ตาย ผู้ตายยังวิ่งไล่กับได้ร้องด่าด้วย ดังนี้พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ฉะนั้น การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ควรลงโทษจำเลยให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีปืนเป็นอาวุธยิงทำร้ายร่างกายพลทหารสมัยตำบลชัย ๑ นัด พลทหารสมัยได้ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๙๒
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าจำเลยใช้ปืนยิงพลทหารสมัยถึงแก่ความตายจริง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๒๐ ปี ลดแล้วคงจำคุกจำเลย ๑๓ ปี ๘ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๖ ลดมาตราส่วนโทษให้ ๑ ใน ๓ คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ในการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ปราณีลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ส่วน การเพิ่มเท่ากับส่วนการลด เห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลด คงให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๑๐ ปี
จำเลยฎีกาว่า ผู้ตายได้กดขี่ข่มเหงจำเลยด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยควรได้รับการพิจารณาให้ลงโทษให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ตายเป็นทหาร จำเลยมีอายุกว่าสิบเจ็ดปีแต่ไม่เกินยี่สิบปี มีอายุน้อยกว่าคนอื่น ๆ ในหมู่นั้น ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอยืมปืนจำเลยไปเที่ยว แต่จำเลยไม่ให้ผู้ตายกับจำเลยเถียงกัน มีคนบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย ผู้ตายก็กลับไป แต่แล้วกลับย้อนตามจำเลยมาอีกพร้อมกับพูดว่าพวกมึงแน่สักแค่ไหน กูรู้ไต๋อยู่ แล้วผู้ตายวิ่งเข้ามาใกล้จำเลย จำเลยยิงปืนขึ้นฟ้า ๑ นัด และวิ่งหนีผู้ตาย ผู้ตายวิ่งไล่กับได้ร้องด่าด้วย พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมฉะนั้น การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะควรลงโทษจำเลยให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒ ฎีกาจำเลยฟังขึ้น พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และ ๗๒ เห็นสมควรให้ลงโทษจำคุกจำเลยหกปีจำเลยมีอายุกว่าสิบเจ็ดปีแต่ไม่เกินยี่สิบปี เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๖ ให้จำคุกไว้สี่ปี จำเลยเคยต้องโทษให้เพิ่มโทษตามมาตรา ๙๒ อีก ๑ ใน ๓ แต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์ในการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ปราณีลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด เห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดตามมาตรา ๕๔ คงให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๔ ปี