คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9266/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ออกไปอีก 15 วัน หากศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาตามคำร้องขอ ก็จะต้องยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 7 มิถุนายน 2542 การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ได้ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2542 มากกว่าที่โจทก์ร้องขอ เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นใช้อำนาจทั่วไปที่มีอยู่ และจะอนุญาตขยายระยะเวลาให้เท่าใดก็ได้ ตามเหตุผลที่เห็นสมควร โดยไม่จำเป็นที่ศาลจะต้องระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งอนุญาตนั้นว่าเพราะเหตุใด กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว จะถือว่าศาลชั้นต้นสั่งโดยผิดหลง โดยมิได้ระบุเหตุผลที่ให้เวลาแก่โจทก์เกินกว่าที่โจทก์ร้องขอให้ชัดเจน ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓) เลขที่ ๒๔๐ หมู่ที่ ๔ ตำบลบางโพธิ์ อำเภอเมืองสุราษฎรณ์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยหรือบริวารโต้แย้งขัดขวางการครอบครองที่ดินของโจทก์และให้จำเลยจดทะเบียนโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ ๕,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะทำนิติกรรมโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ถึงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๔๒ และยกอุทธรณ์ของโจทก์ คืนค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์ ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๔๒ ครบกำหนดยื่นอุทธรณ์ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๒ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์หยุดราชการ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒ โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์มีกำหนด ๑๕ วัน โจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในวันที่เริ่มทำการใหม่ได้และเป็นการร้องขอขยายภายในกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่การนับระยะเวลาที่ขอขยายออกไปก็ต้องนับต่อจากวันสุดท้ายที่ครบกำหนดระยะเวลาเดิม คือเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒ หากศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาตามที่โจทก์ต้องการเพียง ๑๕ วัน ก็จะครบกำหนดในวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๔๒ หาใช่วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๒ ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ วินิจฉัยไม่ และการขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจทั่วไปที่จะอนุญาตขยายให้เท่าใดก็ได้ตามเหตุผลที่เห็นสมควร โดยไม่จำเป็นที่ศาลจะต้องระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งอนุญาตขยายระยะเวลานั้นว่าให้เพราะเหตุใด ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นอุทธรณ์ได้ถึงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๔๒ และมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ และคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าว จึงเป็นการใช้อำนาจทั่วไปของศาลที่มีอยู่และเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ถึงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๔๒ โดยอ้างว่าศาลชั้นต้นน่าจะสั่งโดยผิดพลาดหรือผิดหลง เพราะศาลชั้นต้นมิได้ระบุเหตุผลที่ให้เวลาโจทก์เกินกว่าที่โจทก์ขอให้ชัดเจนแล้วมีคำสั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์โดยอ้างว่ายื่นเกินกำหนดนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๘ ให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาและพิพากษาคดีต่อไปตามรูปคดี ค่าทนายความในชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share