คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2600/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 มีฐานะเพียงผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายเท่านั้นมิได้เป็นภริยา-โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จึงไม่เป็นทายาทโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นผู้รับมรดกของผู้ตาย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดชดใช้หนี้ของผู้ตาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายบุญมี ภูกองชนะ ได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมานายบุญมีถึงแก่กรรมจำเลยที่ 1 เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นทายาทโดยธรรมผู้รับมรดกของนายบุญมี และเป็นผู้ปกครองทรัพย์มรดกจึงต้องร่วมกับจำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระต้นเงินและดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 เพียงแต่อยู่กินฉันสามีภริยากับนายบุญมี มิใช่ภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 1จึงมิใช่ทายาทโดยธรรมของนายบุญมีอันจะมีสิทธิในกองมรดกจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้ดังกล่าวที่นายบุญมีก่อไว้ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 66,062 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 35,000 บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยให้เอาทรัพย์สินกองมรดกของนายบุญมีชำระหนี้ให้ ทั้งนี้ไม่เกินกว่าทรัพย์สินกองมรดกที่มีอยู่ หากไม่สามารถบังคับชำระหนี้ดังกล่าวได้ ให้บังคับชำระหนี้เอาจากจำเลยที่ 2 ต่อไป
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นแทนโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1เป็นภริยาของนายบุญมีตั้งแต่ พ.ศ. 2495 แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่ใช่ทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ แต่ที่จำเลยที่ 1 เบิกความรับว่าจำเลยที่ 1เป็นผู้ครอบครองดูแลทรัพย์มรดกนั้น เห็นว่าจำเลยที่ 1 มีฐานะเพียงผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายเท่านั้น จำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นทายาทและไม่ได้เป็นผู้รับมรดกตามกฎหมายเพราะสิทธิการรับมรดกเป็นเรื่องเฉพาะตัวมิได้ถือเอาการครอบครองทรัพย์ของผู้ตายเป็นเกณฑ์ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ครอบครองดูแลทรัพย์มรดกเอาทรัพย์สินจากกองมรดกชำระหนี้แก่โจทก์ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share