คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

แม้ตอนบนของสัญญาระบุว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์แต่ข้อความในสัญญามีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดที่ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อผ่อนชำระราคาได้เท่านั้น กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ย่อมโอนไปยังจำเลยผู้ซื้อทันที แม้ยังไม่ได้โอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่กัน ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ จึงขอคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วไม่ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ผู้ร้องฎีกาอ้างว่ารถยนต์คันพิพาทที่ศาลสั่งริบนั้นผู้ร้องให้นายสมบูรณ์ มีตระกูล เช่าซื้อไป มีสัญญาเช่าซื้อแสดงเป็นหลักฐานปรากฏตามเอกสารหมาย ร.2 เป็นสัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนไข นายสมบูรณ์ มีตระกูล ผู้เช่าซื้อได้มาเบิกความเป็นพยานผู้ร้องว่าได้เช่าซื้อรถยนต์คันนี้จากผู้ร้องจริง ทั้งทะเบียนรถยนต์ตามเอกสารหมาย ร.1 ก็ยังมิได้โอนทะเบียน ค่างวดที่เหลือก็ยังไม่ครบเพราะรถยนต์ถูกยึด รถคันพิพาทจึงยังเป็นของผู้ร้องอยู่ เห็นว่า ที่จะเป็นสัญญาเช่าซื้อนั้นจะต้องเป็นสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้น หรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว และเมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ใช้เงิน เจ้าของก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินที่ได้ใช้มาแล้วนั้น แล้วกลับเข้าครอบครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย แต่สัญญาเอกสารหมาย ร.2 ที่ ผู้ร้องส่งอ้างว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อนั้นมีข้อความดังนี้ ตอนบนของสัญญาระบุว่าเป็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์แต่ข้อความในสัญญาได้ระบุไว้ว่า เงื่อนไขในการปฏิบัติ 1 ในกรณีที่ผู้ซื้อผิดนัดขาดการชำระเงินงวดใด จำนวนใด ตามที่มีหน้าที่ต้องชำระโดยสัญญาฉบับนี้และหรือสัญญาฉบับอื่นใดที่ผู้ซื้อได้ทำไว้ให้แก่ผู้ขายก็ดี หรือผิดนัดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นใดอันมีอยู่ในสัญญานี้ก็ดี หรือต้องถูกฟ้องล้มละลายหรือถูกพิทักษ์รักษาทรัพย์ก็ดี หรือว่าผู้ขายมีความเห็นว่ายานยนต์อันเป็นวัตถุแห่งสัญญานี้ตกอยู่ในเขตอันตรายอันอาจนำไปใช้ผิดทางอันควรหรือถูกยึดเสียก็ดี ในกรณีเช่นว่านี้ ถ้าผู้ขายเห็นชอบก็มีสิทธิที่จะเรียกให้ผู้ซื้อชำระราคาที่เหลืออยู่ในขณะนั้นเสียโดยครบถ้วนโดยพลันก็ได้ เป็นอันว่าให้จำนวนยังค้างชำระอยู่ในขณะนั้น ๆ ถึงกำหนดต้องชำระสิ้นเชิงโดยพลัน

2. วิธีการชำระ จะต้องชำระเงินสดทีสำนักงานผู้ขายทุกคราวกันไปตั้งแต่

งวดที่ 1 ถึงกำหนดวันที่ 1 มกราคม 2522 จำนวนเงิน 10,000 บาท

งวดที่ 2 ถึงกำหนดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2522 จำนวนเงิน 10,000 บาท

ฯลฯ

งวดที่ 23 ถึงกำหนดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2523 จำนวนเงิน 10,000 บาท

ฯลฯ

เสร็จแล้ว ลงชื่อผู้ซื้อผู้ขายและมีพยานรวม 2 คนลงชื่อต่อท้ายดังนี้ เห็นว่าสัญญาตามเอกสารหมาย ร.2 นี้ มีลักษณะเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดที่ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อผ่อนชำระราคาได้เท่านั้น เมื่อเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อขายกันย่อมโอนไปยังผู้ซื้อทันทีในขณะที่ได้ทำสัญญาเสร็จที่ผู้ร้องฎีกาว่าทะเบียนรถยนต์คันนี้ก็ยังไม่ได้โอนกัน รถยนต์ยังเป็นของผู้ร้อง และพันตำรวจโทฉัตรชัย จิตต์นุสนธิ์ นายทะเบียนยานพาหนะจังหวัดชัยภูมิก็เบิกความรับรองนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ทะเบียนรถยนต์หาใช่เป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์อันจะพึงถือได้ว่าผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นเจ้าของรถยนต์คันนั้นไม่ การซื้อขายรถยนต์แม้ยังไม่โอนทะเบียนให้แก่กันกรรมสิทธิ์ก็โอนไปยังผู้ซื้อได้ ส่วนการโอนทะเบียนรถยนต์ตามกฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์นั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่จะควบคุมยานพาหนะและภาษีรถยนต์ต่างหาก มิใช่แบบของนิติกรรมแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์คันพิพาทนั้นชอบแล้ว”

พิพากษายืน

Share