คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยนำอาวุธปืนไปขอรับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฉบับที่ 6 พ.ศ.2518 เจ้าพนักงานรับเรื่องไว้ และมอบปืนให้จำเลยรักษาไว้เป็นการทำแทนนายทะเบียน ไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนศาลพิพากษาลงโทษปรับและให้ริบปืน จำเลยอุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิด จึงไม่ริบปืนได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2517 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 จำคุก 6 เดือนปรับ 1,041 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ริบของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยนำอาวุธปืนของกลางไปขอจดทะเบียนและยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของนายทะเบียนว่า สมควรจะอนุญาตให้จำเลยมีและใช้อาวุธปืนหรือไม่ ถือว่าจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตต้องมีความผิดนั้น เห็นว่าที่จำเลยนำอาวุธปืนของกลางไปมอบให้นายทะเบียนพร้อมกับขอจดทะเบียนปืนดังกล่าวแล้ว ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบแบบแผน แต่นายทะเบียนผู้รับคำขอจดทะเบียนได้คืนอาวุธปืนของกลางให้จำเลยไปเก็บรักษาไว้ ที่จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียนเช่นนั้น ถือว่าเป็นการเก็บรักษาไว้แทนนายทะเบียนท้องที่ จำเลยหาได้มีเจตนากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างใดไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาต

ส่วนกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัดที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องนั้น จำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ให้มี และไม่ปรากฏว่าจำเลยนำกระสุนปืนจำนวน 6 นัดของกลางนี้ไปขอรับอนุญาต ทั้งจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนดังกล่าวแล้ว กรณีจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 จำเลยจึงมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง

โจทก์ฎีกาว่า จำเลยอุทธรณ์ขอให้คืนของกลางประเด็นเดียวไม่ได้อุทธรณ์ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยประเด็นข้อนี้นั้น ได้ความว่าจำเลยมีอาวุธปืนของกลางซึ่งจำเลยได้นำไปขอขึ้นทะเบียนไว้แล้ว แต่นายทะเบียนได้คืนอาวุธปืนให้จำเลยไปเก็บรักษาไว้ โดยยังอยู่ในระหว่างรอรับใบอนุญาตจากนายทะเบียนเช่นนี้จะเป็นความผิดหรือไม่ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลอุทธรณ์มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ และที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องข้อหานี้นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2517 มาตรา 3 ให้ปรับ200 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 100 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบกระสุนปืนของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

Share