แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กับ ล. เป็นสามีภรรยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกันคือ เด็กชาย ธ. เด็กชาย ธ. จึงเป็นบุตรนอกสมรส อำนาจปกครองย่อมตกอยู่กับโจทก์ผู้เป็นมารดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1538 (5) โจทก์มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตรและเรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมายได้ ตามมาตรา 1539 (1) (4)
การที่โจทก์ขอรับเด็กชาย ธ. คืนจากจำเลยซึ่งเป็นบิดาของ ล. ถือว่าเป็นการกำหนดที่อยู่ใหม่ของบุตร และการที่จำเลยไม่ยอมส่งมอบเด็กชาย ธ. ให้โจทก์ จนกระทั่งโจทก์ต้องร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยก็ยังไม่ยอมมอบบุตรให้โจทก์อีก ทั้ง ๆ ที่ ล. ไม่ขัดข้องที่จะให้เด็กชาย ธ. ไปอยู่กับโจทก์ ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกักบุตรของโจทก์ไว้โดยไม่ชอบ สิทธิของโจทก์ถูกโต้แย้งแล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยผู้โต้แย้งสิทธิให้ส่งมอบบุตรได้ตามมาตรา 55 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่จำเป็นต้องฟ้อง ล.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ โจทก์อยู่กินเป็นสามีภรรยากับนายแหลม บุตรจำเลย มีบุตรด้วยกัน ๑ คน คือเด็กชายธารินทร์ ต่อมาโจทก์กับนายแหลมเลิกร้างกัน และนายแหลมนำเด็กชายธารินทร์ไปฝากจำเลยเลี้ยงดูโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์เคยขอรับเด็กชายธารินทร์คืนจากจำเลยหลายครั้ง จำเลยไม่คืนให้ ขอให้ศาลบังคับจำเลยส่งมอบเด็กชายธารินทร์แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เด็กชายธารินทร์เป็นบุตรของโจทก์เกิดจากนายแหลม เหตุที่จำเลยรับบุตรโจทก์มาเลี้ยงเพราะโจทก์กับนายแหลมหย่าร้างกัน ทิ้งบุตรให้นายแหลมเลี้ยงดู นายแหลมจึงพาเด็กชายธารินทร์มาให้โจทก์เลี้ยง ซึ่งโจทก์ได้เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กชายธารินทร์อายุ ๓ ขวบ จนถึงบัดนี้อายุ ๖ ขวบ ตลอดระยะเวลานี้โจทก์ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู จำเลยมีความรักอาลัยเด็กชายธารินทร์เป็นอย่างยิ่ง จึงไม่อยากให้เด็กชายธารินทร์จากไป และต้องการให้เด็กรู้ว่าปู่ย่าเป็นคนเลี้ยงดูมา ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยส่งมอบเด็กชายธารินทร์แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์กับนายแหลม จะรอนรัมย์ หรือจะรอรัมย์ เป็นสามีภรรยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เด็กชายธารินทร์จึงเป็นบุตรนอกสมรส อำนาจปกครองย่อมตกอยู่กับโจทก์ผู้เป็นมารดา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๓๘ (๕) โจทก์ย่อมมีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตร และเรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่น ซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ได้ตามมาตรา ๑๕๓๙ (๑) (๔) ที่โจทก์ยอมรับเด็กชายธารินทร์คืนจากจำเลยถือว่าเป็นการกำหนดที่อยู่ของบุตรใหม่ และที่จำเลยไม่ยอมส่งมอบเด็กชายธารินทร์ให้โจทก์จนกระทั่งโจทก์ต้องร้องเรียนเจ้าพนักงานตำรวจ ดังปรากฏตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันของสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองบุรีรัมย์ (เอกสารท้ายฟ้อง) จำเลยก็ไม่ยอมมอบบุตรให้โจทก์อีก ทั้ง ๆ ที่นายแหลมบิดาเด็กชายธารินทร์เองไม่ขัดข้องที่จะให้เด็กชายธารินทร์ไปอยู่กับโจทก์ ดังนี้เห็นว่า เป็นการกักบุตรของโจทก์ไว้โดยไม่ชอบ สิทธิของโจทก์ถูกโต้แย้งแล้ว โจทก์ชอบที่จะฟ้องจำเลยผู้โต้แย้งสิทธิให้ส่งมอบบุตรได้ตามมาตรา ๕๕ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่จำเป็นต้องฟ้องนายแหลม
พิพากษายืน