แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปืนเป็นศาตราวุธร้ายแรงสามารถทำให้ถึงตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย ก.ม.จึงห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเว้นแต่จะได้รับอนุญาตและกำหนดให้ปืนทุกกระบอกต้องมีเครื่องหมายประจำปืน
เมื่อจำเลยมีปืนไว้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืนก็มีความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ตามก.ม.อาญา ม.28 อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดีตาม ม.11 เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ก็มิได้มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น และการที่ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ผิดกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2477 นั้นก็ไม่กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อ ก.ม.อันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม ก.ม.อาญาประการใดเลย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
ย่อยาว
คดีเรื่องนี้ได้ความตามโจทก์ฟ้องและจำเลยให้การรับสารภาพ ฟังได้ว่าจำเลยมีปืนแก๊ปยาว ๑ กระบอกซึ่งยิงได้ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานประทับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ ม.๗-๗๒ ให้ปรับ ๒๔๐ บาท ลดตาม ม. ๕๙ กึ่งหนึ่งเหลือ ๑๒๐ บาท ส่วนปืนของกลางนั้นเห็นว่าตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ไม่มีบัญญัติให้ริบผิดกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. ๒๔๗๗ ม.๖๐ ซึ่งยกเลิกไปแล้ว และปืนไม่ใช่ของที่ผิด ก.ม. ในตัวเองจะริบตาม ก.ม.อาญา ม.๒๗,๒๘ ไม่ได้จึงไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบปืนตาม ก.ม.อาญา ม. ๒๘
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าริบปืนของกลางได้ตาม ก.ม.อาญา ม.๒๘ พิพากษาแก่ให้ริบปืนของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าปืนเป็นศาตราวุธที่ร้ายแรงสามารถทำให้ตายหรือบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย ก.ม.จึงบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง เว้นไว้แต่บุคคลที่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่แล้วเท่านั้นและปืนทุกกระบอกจะต้องมีเครื่องหมายประจำปืนตาม ม. ๑๐ ปืนของกลางเป็นปืนเถื่อนไม่มีเครื่องหมายประจำอาวุธปืน ก.ม.จึงห้ามมิให้มี จำเลยมีไว้เป็นความผิด ศาลจึงมีอำนาจริบได้ตาม ก.ม. อาญา ม.๒๘ อันเป็นแม่บทสำหรับการริบทรัพย์ซึ่งใช้ทั่วไปในสรรพคดีตาม ม. ๑๑ และ พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มิได้บัญญัติเรื่องริบไว้ ผิดกับพ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. ๒๔๗๗ นั้นไม่ได้กระทบกระเทือนถึงหลักใหญ่ในข้อ ก.ม.อันเกี่ยวแก่การริบทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญาแต่ประการใดเลย