แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ก.ม.อาญา ม. 336 (15) เป็นความผิดเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทางไปมาของสาธารณชน เนื่องจากกระทำให้ยานที่ขับขี่ไปมาในถนนหลวงโดนกันเพราะไม่ได้ประพฤติตามข้อบังคับสำหรับการขับขี่ยานซึ่งมีบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบกเป็นต้น ความมุ่งหมายของ พ.ร.บ.นี้มีข้อความชัดว่าเป็นการวางระเบียบจราจรทางบกเพื่อความสดวกและปลอดภัยของประชาชน เพราะฉนั้นเอกชนจึงไม่มีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับความผิดในมาตรานี้
ฎีกาที่ 1974/2497
ย่อยาว
คดีนี้ในศาลชั้นต้นพิพากษากันเป็น ๓ สำนวนซึ่งศาลได้ พิจารณาพิพากษารวมกัน สำนวนที่นายจงลี้ แซ่โซว ฟ้อง น.ส. ปิ๊ดหยุ่น แซ่เลี้ยว คงยุติเพียงศาลชั้นต้น อีก ๒ สำนวนพิพาทต่อมาถึงศาลฎีกา แต่สำนวนที่นายยินซิน แซ่เลี้ยวฟ้องนายจงลี้ แซ่โซว นั้นปรากฎว่าส่งสำเนาให้นายจงลี้ แซ่โซวไม่ได้ ศาลฎีกาจึงสั่งให้จำหน่ายคดี คงวินิจฉัยเฉพาะสำนวนที่พนักงานอัยการ กรมอัยการฟ้อง น.ส.ปี๊ดหยุ่น แซ่เลี้ยว เป็นจำเลย
อัยการฟ้อง น.ส.ปี๊ดหยุ่น เป็นจำเลยว่าขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้รถจำเลยชนรถยนต์ของบริษัทยี่เทียนถองซึ่งนายจงลี้ แซ่โซว เป็นคนขับ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. ๒๔๗๗ ม.๑๓,๒๙,๓๒,๖๖ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๘๑ ม.๔ ก.ม. อาญา ม.๓๓๖(๕)
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ประมาท ฝ่ายนายจงคนของบริษัทยี่เทียนถอง ฯ เป็นฝ่ายประมาท ขอให้ยกฟ้อง
บริษัทยี่เทียนถอง ฯ เจ้าของรถขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม โดยบรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการ
ศาลแขวงพระนครใต้เห็นว่าความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ๒๔๗๗ และก.ม. อาญา ม.๓๓๕ ข้อ ๑๕ เป็นความผิดเกี่ยวกับสาธารณชนและสาธารณประโยชน์ราษฎรไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่เชื่อพยานโจทก์เและเห็นว่าพยานจำเลยมีน้ำหนักดีกว่าพิพากษาให้ยกฟ้องของพนักงานอัยการกับให้ยกคำร้องและยกฟ้องคดีที่บริษัทยี่เทียนถอง ฯ โจทก์ร่วม และคดีที่นายยินซิน และนายจงลี้ เป็นโจทก์แต่สำนวนเสีย
บริษัทยี่เทียนถองและนายยินซีน อุทธรณ์ข้อ ก.ม. ว่ามีอำนาจฟ้อง ส่วนในข้อเท็จจริงพนักงานอัยการและบริษัทยี่เทียนถอง ฯ อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ น.ส.ปิ๊ดหยุ่น จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า น.ส. ปิ๊ดหยุ่น จำเลยมีความผิด ตาม พ.ร.บ. จราจร ทางบก ๒๔๗๗ ม.๑๓,๒๙,๓๒,๖๖ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๘๑ ม.๔ ก.ม.อาญา ม.๓๓๖ (๑๕) ปรับ ๕๐ บาท ส่วน นายจงลี้ จำเลยมิได้กระทำผิดให้ยกข้อของนายยินซินโจทก์
น.ส.ปิ๊ดหยุ่นฎีกาว่ามิได้กระทำผิด บริษัทยี่เทียนถอง ฯ ฎีกาว่ามีอำนาจฟ้องนายยินซินโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายจงลี้ จำเลย แต่ส่งสำเนาฎีกาให้ไม่ได้ ศาลฎีกาจึงสั่งจำหน่างเฉพาะคดีที่นายจงลี้ จำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องของบริษัทยี่เทียนถอง ฯ บรรยายการกระทำของจำเลยรับอยู่ว่าเป็นเหตุน่าหวาดเสียวอาจเกิดอันตรายแก่ประชาชน ก.ม.อาญา ม. ๓๓๖(๑๕) เป็นความผิดเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทางไปมาของสาธารณชน เนื่องจากทำให้ยานที่ขับขี่ไปมาในถนนหลวงโดนกันเพราะไม่ได้ประพฤติตามข้อบังคับสำหรับการขับขี่ยานซึ่งมีบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จราจร ความมุ่งหมายของ พ.ร.บ.นี้มีข้อความชัดว่าเป็นการวางระเบียบจราจรทางบกเพื่อความสดวกและปลอดภัยของประชาชนเอกชนจึงไม่มีอำนาจฟ้องตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๙๗๔/๒๔๙๗ ระหว่างนายเบ่งเกี่ยง แซ่จิง โจทก์นายจงเฮี้ยง แซ่ฉัว จำเลยฎีกาของบริษัทยี่เทียนถอง ฯ ฟังไม่ขึ้น ส่วนข้อเท็จจริงนั้นก็ฟังได้ตามศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาจำเลยและบริษัทยี่เทียนถอง ฯ