แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ผู้คัดค้านจงใจไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดก ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดโดยมีพฤติการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทอื่น ดังนี้เป็นเหตุสมควรถอดถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อยังมีทรัพย์มรดกของผู้ตาย เพื่อจัดการต่อไปภายหลังที่เพิกถอนผู้จัดการมรดกแล้ว เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นบุตรของผู้ตายทั้งไม่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 ผู้ร้องทั้งสองจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย.
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งนายดาบตำรวจหญิงสมควร แตงชาติ ผู้คัดค้านเป็นจัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่แตงชาติ ผู้ตาย ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม 2531 นางส้มลิ้ม กองสถิตย์และนายเสงี่ยม แตงชาติ ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทั้งสองเป็นบุตรของนายฉาบและนางทองอยู่ ผู้ร้องทั้งสองไม่ทราบถึงการขอเป็นผู้จัดการมรดกดังกล่าว และคัดค้านมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้จัดการมรดกที่ดีโดยมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกยื่นต่อศาลไม่แบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท ทั้งยังเบียดบังทรัพย์มรดกอีกด้วยขอให้ถอดถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบ และนางทองอยู่ ผู้ตาย และตั้งผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกแทน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ไม่ได้กระทำผิดหน้าที่ของผู้จัดการมรดก นายฉาบได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ร้อยตำรวจตรีสวัสดิ์ แตงชาติ สามีผู้คัดค้าน ซึ่งถึงแก่กรรมและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของร้อยตำรวจตรีสวัสดิ์ด้วยแล้ว ผู้ร้องทั้งสองจึงไม่ได้เป็นทายาทผู้มีส่วนได้เสียและไม่มีสิทธิที่จะเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสอง
ผู้ร้องทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่ ผู้ตาย และตั้งผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบผู้ตาย กับตั้งผู้ร้องที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่ ผู้ตาย ให้ผู้ร้องทั้งสองมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า นายฉาบและนางทองอยู่เป็นสามีภริยากัน มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ ผู้ร้องทั้งสองและร้อยตำรวจตรีสวัสดิ์ แตงชาติ ซึ่งเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้คัดค้าน นายฉาบถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2511นางทองอยู่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2526 และร้อยตำรวจตรีสวัสดิ์ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2527 ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่ตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 277/2529 ของศาลชั้นต้น ผู้ร้องที่ 1ได้เป็นผู้จัดการมรดกของนางทองอยู่ผู้ตาย…
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของผู้้คัดค้านประการแรกมีว่า มีเหตุสมควรถอดถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่ ผู้ตายหรือไม่… การที่ผู้คัดค้านจงใจไม่จัดทำบัญชีภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีพฤติการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทอื่นด้วยเช่นนี้ จึงมีเหตุสมควรถอดถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่ผู้ตาย…
ปัญหาต่อไปมีว่า ผู้ร้องทั้งสองเหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบ และนางทองอยู่ ผู้ตายหรือไม่ เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้วว่า ผู้ร้องที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของนางทองอยู่ก่อนแล้ว ตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 616/2528 ของศาลชั้นต้น จึงไม่จำต้องสั่งในคดีนี้ซ้ำอีก คงมีข้อวินิจฉัยเฉพาะผู้ร้องที่ 1เพียงว่า ผู้ร้องที่ 1 เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบหรือไม่เท่านั้น…ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ายังมีทรัพย์มรดกของนายฉาบเพื่อจัดการต่อไป เมื่อปรากฎว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นบุตรของนายฉาบและนางทองอยู่ ทั้งไม่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ผู้ร้องทั้งสองจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉาบและนางทองอยู่ผู้ตาย…”
พิพากษายืน.