คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508 มาตรา 13 และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ข้อ11 บัญญัติว่าเมื่อผู้ใดฝ่าฝืนบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ศาลมีอำนาจถอนใบอนุญาตขับรถได้และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 4(14) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2508 มาตรา 3 ให้วิเคราะห์ศัพท์คำว่า ใบอนุญาตขับรถ ให้หมายความว่าใบอนุญาตให้ผู้ขับทำการขับขี่หรือลากเข็นรถหรือรถรางตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ รถจ้างรถลาก ล้อเลื่อน การจดทะเบียนคนขับรถรางและการขนส่ง ดังนี้ ใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถยนต์ซึ่งนายทะเบียนการขนส่งออกให้แก่จำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งจึงเป็นใบอนุญาตขับรถตามความหมายในพระราชบัญญัติจราจรทางบกเมื่อจำเลยกระทำผิดและศาลพิพากษาลงโทษจำเลย (ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 66 ที่แก้ไขแล้ว) ศาลก็มีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถที่กล่าวนั้นเสียได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจขับรถยนต์โดยสารประจำทาง ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง ไม่หยุดรถหรือชะลอความเร็ว เพื่อรถให้ทางข้างหน้าปลอดภัยเสียก่อนเมื่อจะสวนทางกับรถอีกคันหนึ่งที่จอดอยู่ริมถนน เป็นเหตุให้ตัวถังรถของจำเลยเฉี่ยวเบียดกับรถคันที่จอดอยู่เสียหายเป็นเงิน 2,000 บาท ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508มาตรา 7, 13 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ลงวันที่ 26 มกราคม2515 ข้อ 11 และขอให้สั่งถอนใบอนุญาตประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถ ใบอนุญาตเลขที่ ส.ข.4/2513 ซึ่งนายทะเบียนการขนส่งทางบก จังหวัดสงขลาออกให้แก่จำเลยเสียด้วย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษปรับ 1,000 บาท บังคับค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ส่วนที่โจทก์ขอให้สั่งถอนใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่ง ซึ่งนายทะเบียนการขนส่งทางบกจังหวัดสงขลาออกให้แก่จำเลยนั้น ศาลไม่มีอำนาจจะสั่งเพิกถอนได้ให้ยกคำขอของโจทก์เสีย

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้เพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถยนต์ของจำเลยตามฟ้อง

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงเป็นอันฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกที่โจทก์ขอให้ลงโทษมาท้ายฟ้อง ปัญหาว่าศาลมีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าวได้หรือไม่

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2477 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508 มาตรา 13 และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ข้อ 11ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับบทลงโทษจำเลยมานั้น บัญญัติไว้ว่า เมื่อผู้ใดฝ่าฝืนบทแห่งพระราชบัญญัตินั้น นอกจากระวางโทษปรับแล้ว ให้ศาลมีอำนาจถอนใบอนุญาตขับรถได้ และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 4(14) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508 มาตรา 3 ได้วิเคราะห์ศัพท์ใบอนุญาตขับรถ ไว้ว่า หมายความว่าใบอนุญาตให้ผู้ขับทำการขับขี่หรือลากเข็นรถหรือรถราง ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ รถจ้าง รถลาก ล้อเลื่อนการจดทะเบียนคนขับรถรางและการขนส่ง ซึ่งตามบทกฎหมายดังกล่าวนี้เป็นที่เห็นได้ว่า ใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งสำหรับหน้าที่ผู้ขับรถยนต์ ใบอนุญาตที่ ส.ข.4/2513 ซึ่งนายทะเบียนการขนส่งจังหวัดสงขลาออกให้แก่จำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งรายนี้เป็นใบอนุญาตขับรถ ตามความหมายในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ศาลมีอำนาจเพิกถอนตามบทกฎหมายที่พิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นได้ แต่ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยขับรถคันเกิดเหตุโดยประมาท ทำให้เฉี่ยวหรือเบียดรถของผู้เสียหายได้รับความเสียหายไม่มากนัก ยังไม่สมควรที่จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประจำเครื่องอุปกรณ์การขนส่งของจำเลยตามฟ้อง

พิพากษายืน

Share