คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายบทเดียวกัน เป็นแต่ใช้ดุลพินิจในการลงโทษหนักขึ้นและลดโทษฐานปราณีน้อยลง แต่ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฉุดคร่าอนาจารน.ส.ลียะ และจำเลยที่ ๑ ได้บังอาจขู่เข็ญกระทำชำเรา ขอให้ลงโทษ
แรกจำเลยปฏิเสธ เมื่อสืบพยานโจทก์แล้ว ๖ คน จำเลยจึงถอนคำให้การเดิม รับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้ง ๓ มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๗๖,๖๓ ให้จำคุกคนละ ๖ เดือน และนายเก็ตจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๔๓ อีกด้วย ให้จำคุก ๑ ปี รวมเป็น ๑ ปี ๖ เดือน ลดตามมาตรา ๕๙ กึ่งคงจำคุกนายเก็ต ๙ เดือน จำคุกนายม้วน นายทอง คนละ ๓ เดือน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นทั้งไม่ควรลดโทษจำเลยถึงกึ่งหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยทั้ง ๓ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๗๖ คนละ ๑ ปี และจำคุกนายเก็ตจำเลยตามมาตรา ๒๔๓ อีก ๓ ปี ลดตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสาม คงจำคุกนายเก็ต ๒ ปี ๘ เดือนและจำคุกนายม้วน นายทองคนละ ๘ เดือน
นายเก็ตจำเลยฎีกาโดยอ้างว่าศาลอุทธรณ์แก้ไขมาก จึงฎีกาในข้อเท็จจริงได้และขอให้ศาลลงโทษเบากว่าศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์คงเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายบทเดียวกัน เป็นแต่ใช้ดุลพินิจในการลงโทษหนักขึ้นและลดโทษฐานปราณีน้อยลง แต่ก็ลงโทษจำคุกนายเก็ตจำเลยไม่เกิน ๕ ปี ดังนี้ เป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีการในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๑๘
พิพากษายืน.

Share