คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันชี้สองสถานศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ภายในเวลาที่กำหนดให้ ในวันนั้นเองโจทก์ยื่นคำร้องขอสละคำขอท้ายฟ้องบางตอน ศาลชั้นต้นมิได้สั่งรับคำร้องนี้ จนกระทั่งพ้นเวลาที่ได้กำหนดไว้นั้นและโจทก์มิได้ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่ม ศาลก็สั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดี ดังนี้ เป็นการไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามลำดับเมื่อความปรากฏแก่ศาลสูง ๆ ย่อมพิพากษาให้ยกคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเสียใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางเกียว กลีบบัว ตามคำสั่งของศาลโดยจำเลยเอาความเท็จมากล่าวอ้าง และเมื่อศาลตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกแล้วจำเลยกระทำผิดหน้าที่ โจทก์เป็นผู้มีส่วนได้เสียในฐานะผู้มีสิทธิได้รับมรดก จึงขอให้ศาลสั่งถอดถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดก และสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแทน ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับกองมรดก ส่งคืนเอกสารสิทธิของทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์มรดกท้ายฟ้องให้โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เอาความเท็จมากล่าวอ้าง จำเลยไม่ได้กระทำผิดหน้าที่ โจทก์ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่มีอำนาจฟ้อง

ในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีปัญหาเป็นประเด็นข้อพิพาทกันว่าโจทก์เป็นทายาทหรือไม่ ซึ่งผลของคดีทำให้โจทก์มีสิทธิได้ทรัพย์มรดกหรือไม่ แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องเรียกทรัพย์มรดกส่วนของโจทก์โดยตรง กลับมาขอเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งเป็นผลให้โจทก์ได้รับทรัพย์มรดกไปนั่นเอง เป็นการฟ้องเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมศาล จึงถือว่าคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้องภายใน 15 วัน

โจทก์ยื่นคำร้องขอสละคำขอท้ายฟ้องที่ว่า “ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดก”ศาลชั้นต้นสั่งว่าจะพิจารณาสั่งในวันนัดชี้แต่แล้วก็ไม่ได้สั่ง

และโจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ฟ้องโจทก์เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์และได้เสียค่าธรรมเนียมดังที่ศาลได้ประทับฟ้องแล้ว โจทก์ไม่ได้เรียกร้องมรดก

เมื่อล่วงเลยกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่เกี่ยวข้องและโจทก์ไม่ชำระ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดี

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาเสียอย่างคดีมีทุนทรัพย์ แต่ในวันที่มีคำสั่งโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอสละคำขอท้ายฟ้องข้อ 1 บางตอนออกเสีย ซึ่งการสละคำขอดังกล่าวอาจมีผลทำให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่สั่งว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ก็ได้ ศาลชั้นต้นจึงต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามลำดับ จะยกเว้นโดยข้ามไปไม่ต้องสั่งคำร้องของโจทก์หาได้ไม่ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของโจทก์แล้วคำสั่งมีผลเป็นประการใด และโจทก์ไม่ปฏิบัติตาม ศาลจึงจะวินิจฉัยสั่งต่อไปตามกระบวนความ กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1) ประกอบด้วยมาตรา 247

พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเกี่ยวกับคดีของโจทก์ เพื่อเรียกค่าขึ้นศาลเสียใหม่ ว่าคดีของโจทก์เป็นคดีมีหรือไม่มีทุนทรัพย์

Share