แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุและถือปืนเดินแกว่งเข้าหาจำเลยในระยะใกล้ชิด ห่างกันเพียงประมาณ 1 ศอกส่อแสดงว่าจะทำร้ายจำเลย จำเลยใช้ขวานตีผู้เสียหาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๙๕ จำเลยบังอาจใช้ขวานฟันพลตำรวจส่ง ธุระบาดเจ็บสาหัส จำเลยเคยต้องโทษ พ้นโทษยังไม่เกิน ๕ ปี ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ
จำเลยให้การภาคเสธว่าได้กระทำไปเพื่อป้องกันชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๕๖,๕๓ จำคุก ๙ เ ดือน เพิ่มโทษตามมาตรา ๗๒ อีก ๑ ใน ๓ รวมจำคุก ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันชีวิตของจำเลยพอสมควรแกเหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุบุกรุกเข้าไปถึงที่อยู่อาศัยจำเลย ด่าและถือปืนเดินแกว่งเข้าหาจำเลยในระยะใกล้ชิดห่างกันเพียงประมาณ ๑ ศอก ส่อแสดงว่าจะกระทำร้ายจำเลย จำเลยใช้ขวานตีผู้เสียหาย ๑ ที การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์