แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานบุกรุก  ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา  329  นั้น  เคหะที่บุกรุกนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นของจำเลย
จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องของจำเลย  ซึ่งได้ให้โจทก์เช่าอยู่อาศัย  ดังนี้
  ยังไม่เป็นความผิดในทางอาญาฐานบุกรุก
(อ้างฎีกาที่  816 – 817 /2493
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า  จำเลยบังอาจใช้จ้างวาน  บุคคลประมาณ  ๒๐  –  ๖๐  คน  มีมีด  ขวาน  ปืน  บุกรุกเข้ามา  โดยมีเจตนาจะมิให้โจทก์ครอบครองเคหะอันเป็นี่อยู่อาศัยของโจทก์โดยปกติสุข  ฯลฯ  จำเลยกับพวกได้รื้อหลังคาเอาไป  ฯลฯ  ขอให้ลงโทษจำเลยตาม  ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา  ๓๒๔,  ๓๒๗,  ๓๒๘,  ๓๒๙.
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา  ๓๒๙,  –  ๖๔  จำคุก ๓  เดือน  ปรับ  ๕๐๐บาท  แต่ให้รอการลงอาญาไว้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยจัดการให้คนรื้ออาคารหลังนี้  ตามคำสั่งของเทศบาลนครกรุงเทพฯซึ่งตามกฎหมาย  ยังไม่เป็นผิดฐานบุกรุก  พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงทั้ง ๆ สำนวนได้ความว่า  โจทก์แต่ละสำนวนได้เช่าห้อง  ซึ่งหาว่าจำเลยบุกรุกนี้จากจำเลย  คือ  เป็นห้องของจำเลย  จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้อง  ซึ่งเป็นของจำเลยเอง  แต่ได้ให้โจทก์เช่าอยู่อาศัย  ศาลนี้เห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดทางอาญาฐานบุกรุก  จะเป็นความผิดในทางอาญาฐานบุกรุก  เคหะที่จำเลยบุกรุกาจะต้องไม่ใช่ของจำเลย
จึงพิพากษายืน

