คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9079/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ตามคำร้องของผู้คัดค้านอ้างว่า อ. เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายในขณะที่ผู้ตายถึงแก่ความตาย อ. จึงมีฐานะเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายและมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตายอยู่ส่วนหนึ่ง ต่อมาเมื่อ อ. ถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกของ อ. ซึ่งตามกฎหมายย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยธรรม ซึ่งมีผู้คัดค้านซึ่งอ้างว่าเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ อ. รวมอยู่ด้วย ทั้งผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ร้องมิใช่ทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายยังมีทายาทลำดับอื่นก่อนผู้ร้องซึ่งยังมีชีวิตอยู่และผู้ร้องยังประพฤติตนไม่เหมาะสม ทำผิดหน้าที่ในการจัดการทรัพย์มรดกของผู้ตาย สมควรถูกถอดออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหากเป็นจริงตามข้ออ้างของผู้คัดค้านดังกล่าว ถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้สืบสิทธิของ อ. ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอถอดถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก และขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องซึ่งเป็นพี่สาวร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนางเอี้ยม ผู้ตาย ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอว่า ผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเอี๋ย ซึ่งเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายอยู่ในขณะที่ผู้ตายถึงแก่กรรม นายเอี๋ยจึงมีฐานะเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่งมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งจากกองมรดกของผู้ตายต่อมานายเอี๋ยถึงแก่กรรมลงและกองมรดกดังกล่าวยังไม่ได้แบ่งปันให้ทายาท ผู้คัดค้านในฐานะทายาทโดยธรรมของนายเอี๋ย จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้ตายส่วนผู้ร้องมิใช่ทายาทโดยธรรมของผู้ตาย เนื่องจากยังมีทายาทในลำดับชั้นที่เหนือขึ้นไปและยังมีชีวิตอยู่คือนางเอื้อน กับนางละออง ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ส่วนผู้ร้องเป็นเพียงพี่น้องร่วมมารดาเดียวกันกับผู้ตาย แต่ต่างบิดา จึงไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกและไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดก นอกจากนี้ผู้ร้องยังจงใจปิดบังจำนวนทายาทโดยธรรม และนำสืบพยานหลักฐานเท็จ อีกทั้งทำผิดหน้าที่ในการจัดการทรัพย์มรดกส่อเจตนาทุจริต สมควรถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดกและแต่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อไปด้วย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอของผู้คัดค้านไว้เพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
ผู้ร้องฎีกา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา เนื่องจากศาลอุทธรณ์ภาค 7 ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดในเนื้อหาแห่งคดี
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา
ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาของผู้ร้องไว้ดำเนินการต่อไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนางเอี้ยม ผู้ตายหรือไม่ เห็นว่า ตามคำร้องของผู้คัดค้านอ้างว่า ผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเอี๋ย ซึ่งเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายในขณะที่ผู้ตายถึงแก่ความตาย นายเอี๋ยจึงมีฐานะเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายและมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตายอยู่ส่วนหนึ่งต่อมาเมื่อนายเอี๋ยถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกของนายเอี๋ยซึ่งตามกฎหมายย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมซึ่งอ้างว่าเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเอี๋ยอยู่ด้วย ทั้งผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ร้องมิใช่ทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายยังมีทายาทลำดับอื่นก่อนผู้ร้องซึ่งยังมีชีวิตอยู่ และผู้ร้องยังประพฤติตนไม่เหมาะสม ทำผิดหน้าที่ในการจัดการทรัพย์มรดกของผู้ตาย สมควรถูกถอดออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย หากเป็นจริงตามข้ออ้างของผู้คัดค้านดังกล่าว ถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้สืบสิทธิของนายเอี๋ยย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอถอดถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก และขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 สั่งให้รับคำร้องของผู้คัดค้านไว้ชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากายืน

Share