คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้เดิมซึ่งถูกรื้อเพื่อสร้างแฟลตโจทก์จับสลากขอเช่าแฟลต ได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาทได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้าเรียบร้อยแล้วแต่จำเลยที่ 1 กลับให้จำเลยที่ 2 เข้าอยู่ห้องพิพาททำให้โจทก์เข้าอยู่ไม่ได้ ฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
โจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้ซึ่งจะถูกรื้อจากจำเลยที่ 1 ได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 และครอบครัวเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมด้วย ต่อมาเมื่อโจทก์จับสลากได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาทจำเลยที่ 1 กำหนดเงื่อนไขว่าโจทก์จะต้องส่งมอบห้องไม้คืนให้จำเลยที่ 1 ภายในกำหนดจึงจะมีสิทธิเช่าแต่โจทก์ไม่สามารถส่งมอบภายในกำหนด เนื่องจากจำเลยที่ 2 ไม่ยอมออกย่อมเป็นความผิดของโจทก์เอง หาใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ไม่ขับไล่จำเลยที่ 2 ไม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ยอมให้โจทก์เป็นผู้เช่าห้องพิพาทมิได้
จำเลยที่ 2 อยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยที่ 2 ละเมิด แย่งการครอบครองขอให้ขับไล่ แต่โจทก์ยังไม่เคยเข้าครอบครองห้องพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เช่าอาคารสงเคราะห์ของจำเลยที่ 1 โจทก์ได้ให้จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยเป็นครอบครัวที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 1 จะรื้อห้องที่โจทก์เช่าเพื่อสร้างแฟลต โจทก์จึงขอเช่าแฟลตและจับสลากได้ห้องเรียบร้อยแล้ว จำเลยที่ 1 มีหนังสือถึงโจทก์อนุญาตให้โจทก์เข้าอยู่ห้องใหม่ได้แต่ต้องส่งมอบห้องเก่าก่อน โจทก์ย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ห้องใหม่ แต่จำเลยที่ 2 ไม่ยอมออก จึงส่งมอบห้องเก่าให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ จำเลยที่ 1 ไม่ยอมฟ้องขับไล่จำเลยที่ 2 แต่กลับมอบกุญแจห้องใหม่ให้แก่จำเลยที่ 2 โจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองส่งมอบห้องให้โจทก์ จำเลยทั้งสองเพิกเฉยเป็นการละเมิด ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 1 ขับไล่จำเลยที่ 2 เพื่อโจทก์จะได้เข้าอยู่ในห้องพิพาทต่อไป

จำเลยที่ 1 ให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ขาดคุณสมบัติเพราะมิได้อาศัยอยู่ในห้องเดิมและไม่ส่งห้องภายในกำหนด ไม่มีอำนาจฟ้องการกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

จำเลยที่ 2 ให้การว่า เช่าห้องเดิมจากโจทก์เดือนละ 200 บาท โจทก์มีภูมิลำเนาใหม่โดยย้ายไปอยู่ที่อื่น จำเลยที่ 1 อนุญาตให้จำเลยที่ 2 เข้าอยู่ในห้องพิพาทโดยเป็นไปตามระเบียบของจำเลยที่ 1 โจทก์มิได้เป็นผู้เช่าและไม่เคยเข้าครอบครองห้องพิพาท ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ออกจากห้องพิพาทและให้จำเลยที่ 1 ยอมให้โจทก์เป็นผู้เช่าห้องพิพาทต่อไป

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าในปัญหาที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้น เห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายว่าโจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้เดิมซึ่งถูกรื้อเพื่อสร้างแฟลตโจทก์จับสลากขอเช่าแฟลตได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาท ย้ายทะเบียนบ้านเข้าห้องพิพาทเรียบร้อยแล้ว แต่จำเลยที่ 1 กลับให้จำเลยที่ 2 เข้าอยู่ห้องพิพาททำให้โจทก์เข้าอยู่ไม่ได้ ฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ฟ้องไม่เคลือบคลุม

ส่วนที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้นเห็นว่าเมื่อโจทก์เป็นผู้เช่าห้องไม้ซึ่งจะถูกรื้อจากจำเลยที่ 1 แล้ว ได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 และครอบครัวเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมด้วย ต่อมาเมื่อโจทก์จับสลากได้รับสิทธิเช่าแฟลตห้องพิพาท จำเลยที่ 1 กำหนดเงื่อนไขว่า โจทก์จะต้องส่งมอบห้องไม้คืนจำเลยที่ 1 ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2517 จึงจะมีสิทธิได้เช่าแต่โจทก์ไม่ได้ส่งมอบภายในกำหนด ทั้งนี้เนื่องมาจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลที่โจทก์ให้เข้าอาศัยอยู่ไม่ยอมออก ย่อมเป็นความผิดของโจทก์เอง หาใช่ความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ไม่ขับไล่จำเลยที่ 2 ไม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ยอมให้โจทก์เป็นผู้เช่าห้องพิพาทมิได้ ส่วนจำเลยที่ 2 อยู่ในห้องพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยที่ 2 ละเมิดแย่งการครอบครองขอให้บังคับขับไล่ แต่โจทก์ยังไม่เคยเข้าครอบครองห้องพิพาท จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share