แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารที่ทนายจำเลยส่งศาลเพื่อประกอบการซักค้านพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำเบิกความของพยานโจทก์ที่ตอบคำซักค้านของทนายจำเลยเมื่อการซักค้านนั้นพาดพิงไปถึงพยานเอกสารใดซึ่งพยานได้ตรวจดูและให้การยอมรับแล้ว ทนายจำเลยย่อมส่งเอกสารนั้นเข้าประกอบถ้อยคำของพยานโจทก์ได้หาใช่เป็นเรื่องจำเลยนำพยานเข้าสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องอันเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสองไม่ศาลจึงรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันกระทำผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350, 83
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และเอกสาร ล.1, ล.2 ที่ทนายจำเลยส่ง รับฟังเป็นพยานหลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้หรือไม่
ปัญหาที่ว่าเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 รับฟังเป็นพยานหลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้หรือไม่นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ทนายจำเลยส่งศาลเพื่อประกอบการซักค้านพยานโจทก์ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำเบิกความของพยานโจทก์ที่ตอบคำถามค้านของทนายจำเลย ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทนายจำเลยมีสิทธิซักค้านพยานโจทก์และเมื่อการซักค้านนั้นพาดพิงไปถึงพยานเอกสารใดซึ่งพยานได้ตรวจดูและให้การยอมรับแล้วทนายจำเลยย่อมส่งเอกสารนั้นเข้าประกอบถ้อยคำของพยานโจทก์ได้ หาใช่เป็นเรื่องจำเลยนำพยานเข้าสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องอันเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสอง ดังโจทก์อ้างไม่ เอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน