คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2809/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การเพียงว่าจำเลยไม่เคยได้รับหนังสือบอกเลิกการเช่าจากโจทก์ ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้บอกเลิกการเช่าชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งก่อน โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้อง จึงเป็นฎีกาที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาเช่าตึกแถวจากโจทก์เป็นเวลา ๑๓ ปี ทำสัญญาเช่า ๕ ฉบับ ฉบับละ ๓ ปี ฉบับสุดท้าย ๑ ปี แต่มิได้จดทะเบียนการเช่า ครบกำหนดตามสัญญาเช่าฉบับสุดท้าย โจทก์บอกเลิกการเช่า จำเลยไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารและใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าตกลงทำสัญญาเช่าตึกแถวจากโจทก์มีกำหนด ๑๕ ปี สัญญาเช่าฉบับสุดท้ายเป็นสัญญาปลอม โจทก์ขูดลบแก้ไขจาก ๓ ปีเป็น ๑ ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าสัญญาเช่าทั้งห้าฉบับมีผลผูกพัน เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงจำเลยยังคงอยู่ในตึกแถวพิพาท ย่อมถือว่าสัญญาเป็นอันทำกันใหม่โดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ไม่ได้บอกเลิกการเช่าชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งก่อนโจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องนั้น จำเลยให้การเพียงว่า จำเลยไม่เคยได้รับหนังสือบอกเลิกการเช่าจากโจทก์ ศาลชั้นต้นกะประเด็นข้อพิพาทในเรื่องนี้ว่าโจทก์บอกเลิกการเช่าหรือไม่ ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์มิได้บอกเลิกการเช่าชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งก่อนจึงเป็นฎีกาที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share