คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อที่ดินมีโฉนดมาโดยทำสัญญาซื้อขายกันเอง แล้วครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปีแล้วนั้น ถ้าได้ความว่า ในหน้าโฉนดยังมีการจำนองติดอยู่ และผู้ที่ขายที่ดินให้คือผู้ที่รับจำนองมาจากเจ้าของเดิม ดังนี้ รูปเรื่องแสดงอยู่ในตัวว่า ฝ่ายผู้ซื้อรับโอนมาเพียงสิทธิจำนองจากผู้รับจำนอง และเข้าครอบครองที่นี้ ในฐานะผู้รับจำนองเท่านั้น ฝ่ายผู้ซื้อจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนฐานะการครอบครองเดิม จะต้องแสดงเจตนาแจ้งให้เจ้าของที่ดินในโฉนดทราบเสียก่อน.

ย่อยาว

โจทก์ยื่นคำร้องว่า นายเชยพ่อตาโจทก์ได้ซื้อที่นาจากนางขลิบ แต่ไม่ได้ทำสัญญาซื้อขาย นางขลิบได้มอบโฉนดและที่ดินให้นายเชยครอบครองมา ๑๐ ปีเศษ นายเชยได้ยกให้โจทก์โดยเสน่หา โจทก์และภรรยาได้ครอบครองมา ๑๕ ปีแล้ว ขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์เป็นผู้มีกรรมสิทธิ นายยิ่งจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านว่า ที่ดินที่เป็นของบิดามารดาจำเลย ๆ ได้จำนองนางขลิบไว้ ต่อมาได้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองแล้ว ต่อมาจำเลยกับมารดาได้ยืนเงินนายเชย ได้มอบที่นาและโฉนดให้นายเชยทำต่างดอกเบี้ย ครั้น ๖-๗ ปีมานี้นายเชยตาย ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาอย่างคดีมีข้อพิพาท ศาลชั้นต้นฟังว่า นางขลิบเอาที่ดินรับจำนองมาซื้อขาย ไม่ทำให้โจทก์มีสิทธิดีขึ้น โจทก์จะมัดภาระจำนองรายนี้ไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยกู้เงินนายเชยแล้วมอบที่พิพาทให้นายเชยทำต่างดอกเบี้ย โจทก์เข้าครองครองจากนายเชย จึงไม่ได้กรรมสิทธิ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า บิดามารดาจำเลยซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของที่รายนี้ในหน้าโฉนดทำสัญญาจำนองไว้แก่นางขลิบโดยไม่ปรากฎว่า ได้มีการไถ่ถอนจำนอง นางขลิบจะเข้าครอบครองที่รายนี้โดยเหตุใด ไม่ชัด ต่อมานางขลิบได้โอนให้แก่พ่อตาโจทก์ แล้วพ่อตาโจทก์มายกให้โจทก์ โดยยึดโฉนดซึ่งติดการจำนองนั้นเรื่อยมา รูปเรื่องจึงแสดงอยู่ในตัวว่า นายเชยพ่อตาโจทก์รับโอนเพียงสิทธิจำนองมาจากนางขลิบ และการเข้าครอบครองที่รายนี้ ก็อยู่ในฐานะผู้รับจำนองเท่านั้น โจทก์จะอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้ ก็ต่อเมื่อได้แจ้งแสดงเจตนาเปลี่ยนฐานะการครอบครอง ให้จำเลยทราบถึงการเปลี่ยนจำนองเช่นนั้น หรือฝ่ายจำเลยเป็นผู้แสดงเจตนาสละกรรมสิทธิให้แก่ฝ่ายโจทก์แต่ในคดีไม่ปรากฎเช่นนั้น
พิพากษายืน.

Share