แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมิได้ขับรถยนต์บรรทุกโดยประมาทจนเป็นเหตุให้รถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับ จำเลยจึงมิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินในอันที่ผู้ก่อจะต้องหยุดช่วยเหลือแสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 291พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4), 78, 157, 160 วรรคหนึ่ง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นายประสิทธิ์และนางสมจิตร เชื้อปาน บิดามารดาของนายนันทศักดิ์ เชื้อปาน ผู้ตาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นโจทก์ได้เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคหนึ่ง, 160 วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน และปรับ 10,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงรอให้การลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ 2 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือน ต่อครั้งในปีแรก และทุก 6 เดือนต่อครั้งในปีที่สอง ให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 15 ชั่วโมง ตามที่จำเลยและพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร ส่วนความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้ยกฟ้อง
โจทก์ร่วมทั้งสองและจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160 วรรคหนึ่ง เสียด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาโจทก์มีเพียงว่า จำเลยกระทำความผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคหนึ่ง โดยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลและทรัพย์สินแล้ว ไม่หยุดช่วยเหลือ และไม่แสดงตัวหรือแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันทีและได้หลบหนีไปหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองว่า จำเลยมิได้ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 80 – 1185 สิงห์บุรี โดยประมาทจนเป็นเหตุให้รถยนต์บรรทุกที่จำเลยขับเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่นายนันทศักดิ์ขับเสียหายและนายนันทศักดิ์ถึงแก่ความตาย เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ารถบรรทุกที่จำเลยขับเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่มา จำเลยจึงมิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินในอันที่ผู้ก่อจะต้องหยุดช่วยเหลือหรือแสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคหนึ่ง ตามคำฟ้องที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องความผิดในข้อหาดังกล่าวชอบแล้ว
พิพากษายืน