แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยแจ้งความต่อตำรวจว่าโจทก์ขนของไปจากห้องที่โจทก์เช่าจำเลยอยู่ แลโจทก์ยังไม่ได้เสียค่าภาษีโรงร้าน จึงขอให้เป็นพะยานในการสำรวจของโจทก์ที่ยังเหลืออยู่ในห้องเช่า เพื่อป้องกันความเสียหายของจำเลย ๆ ยังไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
จำต้องสืบพะยานของคู่ความเสมอไป เมื่อคดีได้ความตามโจทก์จำเลยให้การ ก็ตัดสินได้ทีเดียว
คนบังคับฮอลันดาเป็นคู่ความ
ย่อยาว
ได้ความว่า โจทก์เช่าห้องจำเลยอยู่ แลเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องเสียภาษีโรงร้านซึ่งเวลานี้ค้างอยู่ โจทก์ได้ขนของจากห้องจำเลยไปไว้ที่อื่น แต่ยังขนไปไม่หมด จำเลยจึงไปแจ้งความต่อตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือเป็นพะยานในการที่จะสำรวจของที่เหลือแลปิดร้านบัดนี้โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จ
ศาลเดิมสอบถามโจทก์จำเลยแล้วตัดสินให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนโดยเห็นว่าจำเลยได้จัดการตามควรเพื่อฟ้องกันความเสียหาย จำเลยมิได้แจ้งความเท็จ
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่าศาลล่างตัดสินยกฟ้องโจทก์โดยมิได้สืบพะยานยังไม่ชอบ
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำรับของโจทก์กับใบแจ้งความที่จำเลยแจ้งต่อตำรวจซึ่งโจทก์อ้างมาได้ความพอวินิจฉัยแล้วว่าจำเลยไม่มีผิดดังโจทก์หา ศาลหาจำต้องสืบพะยานต่อไปไม่ จึงตัดสินยืนตามศาลล่าง