คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9004/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้องย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นคำฟ้อง รวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่นๆ อันมีมาภายหลังยื่นคำฟ้อง ทำให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฟ้องเลย ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 176 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 จึงไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีก

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 268, 341 ระหว่างพิจารณา นายชัยวัฒน์ ผู้อนุบาลโจทก์ถึงแก่ความตาย นายสมศักดิ์ ผู้อนุบาลโจทก์อีกคนหนึ่ง เข้าดำเนินคดีแทน ต่อมาโจทก์ถึงแก่ความตาย นายสมศักดิ์จึงดำเนินคดีต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 29 วรรคสอง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องโจทก์ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 268, 341 เฉพาะกระทงความผิดตามคำฟ้องข้อ 2 ในส่วนข้อ 1.1, 1.2, 1.5 ถึง 1.7, 1.11, 1.14, 1.19, 1.21 ถึง 1.31 ไว้พิจารณา หมายเรียกจำเลยให้การแก้คดี สืบพยานโจทก์ หรือนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 เวลา 9 นาฬิกา ให้โจทก์นำส่งหมายภายใน 3 วัน นับแต่วันนี้ มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้อง การส่งหมายหากไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด หากจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตอำนาจศาลนี้ให้แจ้งศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาจัดการให้ เมื่อถึงวันนัดดังกล่าว โจทก์ไม่มาศาล และจำเลยยื่นคำร้องว่าโจทก์ไม่ได้นำส่งหมายเรียกให้จำเลยแก้คดี ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ไม่ได้ดำเนินการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทราบตามคำสั่งศาล ประกอบกับวันนี้โจทก์ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าโจทก์มีเจตนาทิ้งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (1) (2) (ที่ถูก ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 ให้จำหน่ายคดีของโจทก์ออกจากสารบบความ ในวันเดียวกันช่วงบ่าย โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ถอนนายอภิชาติ จากการเป็นทนายความโจทก์ แต่โจทก์เจ็บป่วยจึงไม่สามารถหาทนายความคนใหม่ได้ทัน โจทก์ตั้งใจจะมาศาลเพื่อขอเลื่อนคดี แต่ในช่วงเช้าโจทก์มีอาการปวดในช่องท้องอย่างเฉียบพลันและรุนแรงไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ และไม่สามารถติดต่อหาบุคคลไปเลื่อนคดีแทน ขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาออกไป ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องขอเลื่อนคดีของโจทก์ชอบหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้องย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นคำฟ้อง รวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่น ๆ อันมีมาภายหลังยื่นคำฟ้อง กระทำให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฟ้องเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 176 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 ซึ่งหากโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าว โจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์ หรือขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบในกรณีที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์โดยผิดหลง ซึ่งมีบทกฎหมายที่จะยกขึ้นปรับแก่คดีได้โดยเฉพาะอยู่แล้ว แต่โจทก์ไม่ดำเนินการดังกล่าวกลับยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าเจ็บป่วย ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลชั้นต้นแล้ว จึงไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นอีกต่อไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีก หากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยต่อไปก็ชอบที่จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share