คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

แม้การที่จำเลยใช้กำลังกายปลุกปล้ำและทำร้ายท.ลูกจ้างโดยส่อเจตนาว่าจะใช้กำลังบังคับข่มขืนใจให้ท.ยินยอมให้จำเลยร่วมประเวณีนั้นจะเกิดขึ้นภายในบ้านไม่มีบุคคลภายนอกรู้เห็นก็ตามแต่ก็ถือได้ว่าจำเลยประพฤติชั่วเป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นภริยาได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงต่อท.ซึ่งเป็นลูกจ้างโจทก์จึงฟ้องหย่าจำเลยได้.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ และ จำเลย เป็น สามี ภริยา กัน โดย ชอบ ด้วยกฎหมาย มา ตั้งแต่ พ.ศ. 2489 เมื่อ เดือน มิถุนายน 2524 จำเลย ใช้ กำลังข่มขืน จะ เอา นางสาว ทา ลูกจ้าง ไป หลับนอน ด้วย แต่ นางสาว ทา ไม่ยินยอม จึง ถูก จำเลย ทำร้าย ขอ ให้ พิพากษา ให้ โจทก์ จำเลย หย่าขาดจาก การ เป็น สามี ภริยา กัน ให้ จำเลย ไป จด ทะเบียน การ หย่า กับโจทก์ หาก จำเลย ไม่ ไป ให้ ถือ เอา คำพิพากษา แทน การ แสดง เจตนาของ จำเลย
จำเลย ให้การ และ แก้ คำให้การ ว่า จำเลย ไม่ เคย ใช้ กำลัง ข่มขืนนางสาว ทา ขอ ให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ โจทก์ จำเลย หย่าขาด จาก การ เป็น สามี ภริยากัน ให้ จำเลย ไป จด ทะเบียน หย่า กับ โจทก์ หาก จำเลย ไม่ ปฏิบัติ ตาม ให้ ถือ เอา คำพิพากษา แทน การ แสดง เจตนา ของ จำเลย
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ปัญหา ที่ ว่า การ กระทำ ของ จำเลย เกิดขึ้นภายใน บ้าน จำเลย ไม่ มี บุคคล ภายนอก รู้เห็น และ จำเลย เพียงแต่จับมือ และ ตบหน้า นางสาว ทา จะ ถือ ได้ หรือไม่ ว่า จำเลย ประพฤติ ชั่วเป็น เหตุ ให้ โจทก์ ได้ รับ ความ อับอาย ขายหน้า อย่าง ร้ายแรง โจทก์มี สิทธิ ฟ้อง หย่า ตาม ที่ บัญญัติ ไว้ ใน มาตรา 1516 (2) (ก) ได้หรือไม่ เห็น ว่า การ ที่ จำเลย ได้ ใช้ กำลังกาย ปลุกปล้ำ นางสาว ทาลูกจ้าง และ เมื่อ นางสาว ทา ขัดขืน จำเลย จึง ตบหน้า โดย ส่อ เจตนาว่า จะ ใช้ กำลัง เข้า บังคับ ข่มขืน ใจ ให้ นางสาว ทา ยินยอม ให้จำเลย ร่วม ประเวณี นั้น แม้ เหตุ จะ เกิดขึ้น ภายใน บ้าน ไม่ มี บุคคลภายนอก รู้เห็น ก็ ตาม ก็ ถือ ได้ ว่า เป็น เหตุ ให้ โจทก์ ได้ รับความ อับอาย ขายหน้า อย่าง ร้ายแรง ต่อ นางสาว ทา ซึ่ง เป็น ลูกจ้างที่ จำเลย กระทำ ต่อ นางสาว ทา ดังกล่าว และ ถือ ได้ ว่า จำเลย ประพฤติชั่ว โจทก์ จึง ฟ้อง หย่า จำเลย ได้
พิพากษา ยืน.

Share