คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องขอให้ไถ่ที่นาภายในกำหนดอายุสัญญาโดยราคาต่ำกว่าสัญญาศาลยกฟ้อง คดีถึงที่สุดไปครั้งหนึ่งแล้ว จะมาฟ้องขอไถ่เต็มราคาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพ้นอายุสัญญาแล้ว ไม่ได้ ศาลไม่มีอำนาจสั่งขยายเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญาได้.

ย่อยาว

โจทก์ทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยราคา ๑๖๐๐ บาท กำหนดซื้อคืนภายใน ๒ ปี ได้ฟ้องขอไถ่ถอนในกำหนดสัญญา โดยราคา ๙๐ บาท อ้างว่าผ่อนชำระไปแล้ว ๑๔๐๐ บาทศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า ไม่มีการผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาขายฝากรายนี้เลย คดีถึงที่สุดไปแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอไถ่เต็มราคา ๑๖๐๐ บาท แต่เป็นเวลาพ้นกำหนดอายุสัญญาแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์เคยฟ้องไว้ภายในกำหนดอายุสัญญาแล้ว ถือว่าได้ขอปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ที่ขอให้รับเงินครั้งนี้ก็เมื่อหมดข้อโต้เถียงในคดีก่อนแล้ว จึงพิพากษาให้จำเลยรับเงิน ๑๖๐๐ บาท จากโจทก์และคืนที่ดินให้โจทก์.
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาดังนั้น เป็นการขยายเวลาในสัญญาที่เขาตกลงกันไว้ซึ่งศาลไม่มีอำนาจทำได้ เป็นความผิดของโจทก์เองที่ในคดีก่อนไม่ได้ขอไถ่เต็มราคาและฝ่ายจำเลยก็มิได้ปฏิบัติผิดสัญญาอย่างใดจึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง.
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าสินไถ่รายนี้ต้องถือตามราคาขายเพราะไม่ได้กำหนดกันไว้ การไถ่ครั้งแรกโจทก์ไม่ให้เต็มราคาจึงเท่ากับไม่มีการขอไถ่กันเลย การฟ้องครั้งนี้เกินกำหนดเวลาในสัญญาเสียแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะไถ่ได้ และศาลย่อมไม่มีอำนาจขยาบเวลาตามที่กำหนดกันไว้ในสัญญาได้ จึงพิพากษายืน.

Share