คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ศาลนัดชี้สองสถานไว้แต่ถึงวันนัด โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อน เพียงเท่านี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 183 ไม่ ฉะนั้นคู่ความจึงมีสิทธิขอแก้ฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันสืบพยาน
ขายฝาทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มา ผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนด โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องของให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้ แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องอ้างว่า ได้ขายฝากที่ดินพร้อมด้วยห้องแถวไว้กับจำเลย โจทก์ได้ขอไถ่ตั้งแต่ก่อนครบกำหนด แต่จำเลยบิดพลิ้วเรื่อยมา โจทก์จึงต้องฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ขอไถ่เมื่อครบกำหนดแล้ว จึงไถ่ไม่ได้
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ได้ขอไถ่ทรัพย์จากจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมรับไถ่ถอน จึงพิพากษาให้จำเลยรับไถ่ถอนทรัพย์รายพิพาทจากโจทก์
จำเลยอุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ในข้อที่จำเลยคัดค้านในเรื่องโจทก์ขอแก้ฟ้องนั้น ปรากฎว่าโจทก์ได้ยื่นขอแก้ฟ้องก่อนวันสืบพยาน คดีนี้แม้จะได้นัดชี้สองสถานไว้ แค่ถึงวันนัดโจทก์จำเลยต่างแถลงว่าไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเพียงเท่านี้ เห็นว่าหาใช่เป็นการชี้สถานสถานตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา๑๘๓ ไม่ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้แก้ฟ้องได้ จึงเป็นการชอบแล้ว
ส่วนข้อเท็จจริงคงได้ฟังได้ว่า โจทก์ได้ติดต่อกับจำเลยเพื่อไถ่ถอนการขายฝากนี้ จำเลย++จะรับการไถ่ถอนแต่เมื่อถึงกำหนดจำเลยไม่มา โจทก์จึงร้องต่ออำเภอเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๔๙๓ และต่อมาเมื่อวันที่ ๑๔ เดือนนั้นโจทก์ยังได้นำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอ คณะกรรมการอำเภอได้บันทึกไว้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนการขายฝากภายในกำหนดโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องต่อศาลบังคับให้จำเลยรับการไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ได้ แม้จะเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี
จึงพิพากษายืน

Share