คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8976/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก จำเลยยังอุทธรณ์ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดและขอให้ยกฟ้อง แม้จะมิได้อุทธรณ์ขอให้ลดโทษลงอีก เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าโทษที่ศาลชั้นต้นกำหนดยังสูงเกินไป ก็ย่อมมีอำนาจแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 และมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 102 เม็ด และ 1 ซีก ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 57,66, 67, 91 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 57, 91 ริบเมทแอมเฟตามีน ของกลาง และบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน แต่ให้การปฏิเสธในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 57, 67, 91 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน บวกโทษจำคุกของจำเลย 1 ปี ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2358/2543 ของศาลชั้นต้น รวมจำคุก 5 ปี 3 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 ปี รวมโทษฐานเสพเมทแอมเฟตามีนที่ลดโทษแล้วเป็นจำคุก 3 ปี 3 เดือน บวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อน รวมเป็นจำคุกมีกำหนด 4 ปี 3 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงประการเดียวว่าศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีอำนาจแก้ไขโทษจำคุกสำหรับความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ให้จำคุก 4 ปี เป็นให้จำคุก 3 ปี ได้หรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่า เมื่อศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปีแล้ว จำเลยมิได้อุทธรณ์ว่า ศาลชั้นต้นกำหนดโทษสูงเกินไปหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด จึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่อาจแก้ไขโทษจำคุกที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ให้ลดลงได้ เห็นว่า คดีนี้เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและกำหนดโทษจำคุก 4 ปี จำเลยยังอุทธรณ์ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดและขอให้ยกฟ้องสำหรับความผิดฐานนี้ แม้จะมิได้อุทธรณ์ขอให้ลดโทษลงอีก ความผิดฐานนี้รวมตลอดถึงโทษที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็หาได้ยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดฐานนี้ แต่โทษที่ศาลชั้นต้นกำหนดยังสูงเกินไปก็ย่อมมีอำนาจแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share