คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 232/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวซึ่งอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น เจ้าทุกข์ย่อมมีสิทธิยอมความได้เสมอเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดการยอมความนั้นทำกันในระหว่างอุทธรณืก็ชอบที่จะยื่นต่อศาลอุทธรณ์ได้

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยทำผิดฐานลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ สำหรับโทษฐานลักทรัพย์คดียุติแล้วแต่ศาลชั้นต้น ส่วนเรื่องทำให้เสียทรัพย์นั้น จำเลยอุทธรณ์ ในระหว่างอุทธรณ์เจ้าทุกข์ยื่นคำร้องว่าได้ยอมความกับจำเลยแล้ว ขอถอนคดีและคำร้องทุกข์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการร้องขอถอนคำร้องทุกข์นั้นเมื่อได้ร้องทุกข์ต่อใครก็ควรไปร้องขอถอนกับผู้นั้น จะมาขอถอนต่อศาลไม่ได้ พิพากษาให้ยกคำร้องเสีย
ศาลฎีกาพิพากษาว่าในคดีความผิดต่อส่วนตัวนั้นเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดผู้เสียหายย่อมมีสิทธิยอมความได้เสมอ และเมื่อผู้เสียหายกับจำเลยยอมความกันในระหว่างอุทธรณ์ก็ชอบที่จะยื่นต่อศาลอุทธรณ์ได้ พร้อมกันพิพากษาให้คดีเป้นอันระงับไป

Share